โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลผลักดันการท่องเที่ยวไทยที่มีศักยภาพ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา จัดงาน “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส (Amazing Mutiverse) : เปิดจักรวาลสายบุญ”
พร้อมเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านแคมเปญ “GO Thai Be Free” ซึ่งไทยติดอันดับ 4 ของโลก
วันนี้ (28 มิ.ย.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าส่งเสริมให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันการท่องเที่ยวไทยทุกรูปแบบที่มีศักยภาพ เน้นย้ำการออกแบบเส้นทางการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดกิจกรรม “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส (Amazing Mutiverse) : เปิดจักรวาลสายบุญ” ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2566 ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงศรัทธา – แสวงบุญ ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านโครงการ “GO Thai Be Free” สร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมต่าง ๆ
โดยการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา หรือการท่องเที่ยวมูเตลู กำลังได้รับความนิยมต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ที่ระบุว่า ในปี 2562 สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบสูงสุดถึง 10,800 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นอีกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรมโดดเด่น เชื่อมโยงไปถึงอัตลักษณ์ ความเชื่อของท้องถิ่นที่สามารถตอบโจทย์การท่องเที่ยวสายศรัทธาได้เป็นอย่างดี ททท. จึงคาดการณ์ว่า ตลอดปี 2566 ตลาดการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาจะสร้างรายได้หมุนเวียนถึง 15,000 ล้านบาท โดยในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2566 นี้ จะจัดกิจกรรม “อะเมซิ่ง มูติเวิร์ส (Amazing Mutiverse) : เปิดจักรวาลสายบุญ” ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ลานสเเควร์ B หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มศรัทธาความเชื่อและภูมิปัญญาไทย ประกอบด้วย ศาสนสถาน วัด สิ่งเคารพและศรัทธา วัฒนธรรมและภูมิปัญญา และการท่องเที่ยวโดยชุมชน พร้อมทั้งยังได้ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว 12 เส้นทาง ทั้ง 5 ภูมิภาคของไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเสริมพลังบุญหนุนพลังใจ รวบรวมศาสนสถาน วัด และสถานปฎิบัติธรรมทั่วประเทศเพื่อขอพรเสริมสิริมงคล โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://tourismproduct.tourismthailand.org
นอกจากนี้ ททท. ยังได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ที่เป็นอีกตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง โดยเว็บไซต์ LGBT Capital ซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลของกลุ่มผู้บริโภค LGBT สำหรับภาคธุรกิจและการลงทุนต่าง ๆ ระบุว่า ในช่วงปี 2562 ประเทศไทยมีมูลค่าการตลาดด้านการท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBT (Estimated LGBT - GDP Tourism Impact) จำนวน 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไทยถือเป็นอันดับ 1 ในเอเชียและเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา อันดับที่ 1 (25.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สเปน อันดับที่ 2 (8.1 พันล้านดอลาร์สหรัฐ) และฝรั่งเศส อันดับที่ 3 (7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดย ททท. ได้จัดทำแคมเปญ “GO Thai Be Free” เพื่อกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจากทั่วโลกให้เดินทางมาเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ส่งเสริมการขายผ่านการนำเสนอเส้นทางการจัดงานและกิจกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงปาร์ตี้สำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านเว็บไซต์ www.gothaibefree.com
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยผ่านการจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ให้เกิดมูลค่า บนพื้นฐานของความเป็นไทย วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมชื่นชมการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างสรรค์งานและกิจกรรมที่น่าสนใจ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม สร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” นายอนุชากล่าว