“น้ำ” เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการดำเนินชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ และโลกของเรา แต่ในบางช่วงเวลาก็เกิดปัญหาวิกฤตขาดแคลนน้ำ หรือเกิดปัญหาน้ำท่วม ในภาวะเช่นนี้เราต้องบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบครบวงจร ดังนั้น “ระบบการบริหารจัดการน้ำ” จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยจัดการกับปัญหานี้

 “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง เป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่ช่วยบรรเทาทั้งปัญหาอุทภัยและภัยแล้งในลุ่มแม่น้ำป่าสัก และลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 

ในการนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพ การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรแสหกรณ์ จึงได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) ร่วมกับกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร แห่งประเทศญี่ปุ่น (MIC) ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ด้วยระบบเรดาร์ Solid- State Polarimetric X-band เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำ ในการป้องกันภัยพิบัติ ตามมติที่ประชุมระหว่างสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสาร แห่งประเทศญี่ปุ่น (MIC) สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย บริษัท Japan Radio Co.,Ltd (JRC) และบริษัท Nippon Koei Co.,Ltd.
และล่าสุด ได้มีการเปิดตัวสถานีเรดาร์เพื่อการบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต้นแบบการบริหารจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยระบบ Solid-State Polarimetric X-Band ณ สถานีอุทกวิทยา S.42 อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ระบบเรดาร์ Solid - State Polarimetric X-band เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ โดยติดตั้งเป็นแห่งแรกของกรมชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก บริเวณสถานีสำรวจทางอุทกวิทยา S.42 อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากลุ่มน้ำป่าสักมักจะประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำ จากสภาพทางภูมิประเทศที่ลาดชัน ซึ่งสถานีเรดาร์ดังกล่าว จะทำหน้าที่ตรวจวัดปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ได้แบบ Near Real Time สามารถคาดการณ์ปริมาณฝนล่วงหน้า ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่ตอนกลางของลุ่มน้ำป่าสักไปจนถึงท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 

โดยระบบเรดาร์นี้ จะวัดข้อมูลฝนเชิงพื้นที่ ที่มีความละเอียดสูงพร้อมระบบการจัดเก็บข้อมูลประมวลผลเรดาร์ผ่าน J-BIRDS Software ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณฝนสะสม ความเข้มของฝนรวมทั้งการเคลื่อนที่ของลมหรือพายุ ก่อนจะถูกนำไปประมวลผลด้วยแบบจำลองอุทกพลศาสตร์ (Hydro-dynam ic Model) ที่ติดตั้งอยู่ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ร่วมกับข้อมูลอ่างเก็บน้ำ ข้อมูลตรวจวัดระดับน้ำ และปริมาณน้ำท่าจากระบบโทรมาตรที่มีอยู่เดิม นำไปสู่การคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ(reservoir inflow forecasting system) และระบบสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำ (Dam Operation Support System) ทำให้สามารถประเมินปริมาณน้ำที่จะไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ ส่งผลให้การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนป่าสักฯ สอดคล้องกับสถานการณ์ สามารถแจ้งเตือนพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบให้ทราบล่วงหน้าได้อย่างทันท่วงที 

นอกจากนี้ ช่วยบรรเทาและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักได้เป็นอย่างดียิ่ง รวมทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อีกทางหนึ่งด้วย
            
“ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะนำระบบ Solid-State Polarimetric X-Band มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบโทรมาตรที่มีอยู่เดิม รวมทั้งจะนำไปใช้เป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางของกรมชลประทานทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่อไปในอนาคต”อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวทิ้งท้าย