เมื่อเวลา 9.15 น. วันที่ 26 มิ.ย. 66 ที่อาคารรัฐสภา นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะคณะกรรมการถอดบทเรียนพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารายงานตัวส.ส. ต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงการถอดบทเรียนของพรรคต่อการพ่ายแพ้การเลือกตั้ง และไม่แลนด์สไลด์ ว่า ถอดบทเรียน ไม่แลนด์สไลด์เพื่อไทย เราได้ฟังส.ส.ในพรรค ผู้สมัคร และประมวลจากความเห็นของนักวิชาการ มีหลายประเด็นทั้งเรื่องยุทธศาสตร์ใหญ่ การคัดสรรผู้สมัคร นโยบาย การจัดเวทีปราศรัย การส่งคนไปดีเบต ที่แต่ละเขตมีปัจจัยต่างกัน ซึ่งตนได้ส่งรายละเอียดให้ทางพรรคแล้ว 

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้พรรคเพื่อไทยกลับมาชนะเลือกตั้ง นายนพดล กล่าวว่า จุดแรกที่เห็นตรงกันคือต้องทำพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง ให้เข้มแข็งยิ่งๆขึ้นไปอีก เป็นกระดุมเม็ดแรก ซึ่งต่อไปก็ต้องยึดมั่นในดีเอ็นเอของพรรคคือประชาธิปไตยที่กินได้ มีนโยบายนำและยึดมั่นในประชาธิปไตย เสนอนโยบายแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไปนี่คือแนวทางที่เรายึดมั่นมาตลอด และต่อไปนี้ต้องให้ความสำคัญในด้านสังคม และการเมืองเพิ่มขึ้นด้วย

เมื่อถามถึงแนวโน้มในการโหวตเลือกประธานสภาฯ ของพรรคเพื่อไทย นายนพดล กล่าวว่า จากกรณีที่มีการแสดงความคิดเห็น ที่ค่อนข้างหลากหลายในพรรคเพื่อไทย เป็นปกติของพรรคการเมือง และนักการเมือง จะให้ทุกคนเห็นตรงกันก็ไม่ง่าย แต่เชื่อมั่นว่าในวันที่ 27 มิ.ย. ที่จะมีการหารือกันภายในพรรค จะมีข้อยุติที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายพรรคเพื่อไทยคิดอยู่เสมอว่า จะต้องไม่ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง ข้อสรุปที่ได้มาในวันนั้น คงจะเอื้อให้การดำเนินการร่วมรัฐบาลต่อไป น่าจะมีทางออกที่ดี จะไม่มีปัญหาที่ประชาชนฟังแล้วรู้สึกผิดหวัง และทำให้ความคาดหวังลดทอนลงไป

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลไม่ยอมถอย จะหาทางออกในเรื่องนี้อย่างไร นายรพดล กล่าวว่า นนไม่กล้าสมมุติ ว่าจะมีปัญหาระหว่างการเจรจา อย่างไรก็มีทางออกอยู่สองทาง ไม่เป็นของพรรคเพื่อไทย ก็เป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้นฉะนั้นคณะกรรมการที่มีหน้าที่เจรจา รวมถึงท่าทีของส.ส.พรรค ก็คงจะมีการพูดคุยกัน

“มีทางออกแน่นอน และจะเป็นทางออกที่ดีของพี่น้องประชาชนด้วย ผมมั่นใจอย่างนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาความขัดแย้งกันจนกระทบต่อความมุ่งมั่นในการตั้งรัฐบาล” นายนพดล กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุ ที่พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ เนื่องจากกังวลว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะไม่ได้เป็นนายกฯ นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่มีข้อมูลในส่วนนั้น คิดว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยอย่างมั่นคงในแถลงการณ์ของพรรคที่จะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯและให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้น ตนจึงไม่สามารถตอบได้ ในส่วนที่พรรคก้าวไกลหวังจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการอย่างไร ก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของเขา

เมื่อถามว่า นายพิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ เนื่องจากมีส.ว.บางคนออกมาระบุว่า จะไม่โหวตให้ นายนพดล กล่าวว่าตนไม่ทราบ ไม่มีข้อมูลจริงๆ แต่ในฐานะที่เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าพรรคผูกพันกับเอ็มโอยูที่ได้เซ็นไปแล้วและยังยึดจุดยืนเดิม ส่วนเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ต้องรอดู เราไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้

เมื่อถามต่อว่า มีทางออกสำรองหรือไม่ เพื่อไม่ให้การตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ นายนพดล กล่าวว่า คิดว่าหากการตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ มีผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน และเศรษฐกิจ นักการเมืองทุกคนคงรู้ว่าหากตั้งรัฐบาลล่าช้า คงไม่เป็นผลดี ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือในการตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด พรรคเพื่อไทยยังไม่มีแผนสำรอง เรามีแผนการเดียวคือ เดินหน้าตามเอ็มโอยู และสนับสนุนพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำต่อไป