สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ประกาศยืนยันว่า ประเทศไทย จะได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี FIFA Congress​ ครั้งที่ 74​ โดยจะมี ประธานฟีฟ่า พร้อมด้วยอดีตนักฟุตบอลระดับโลก  (FIFA LEGEND) และผู้แทนจาก 211 ประเทศเข้าร่วม​ ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567

โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พร้อมด้วย คณะผู้บริหารสมาคมฯ พบกับ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ และเชิญมาเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อแสดงถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ และได้มีการตรวจเยี่ยม อาคาร House of Thai Football เมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นได้มีการประสานงานกับฟีฟ่าอย่างต่อเนื่องถึงแผนการดำเนินงานในส่วนต่างๆ กระทั่งฟีฟ่าตัดสินใจเลือกประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพ 

พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดที่อยู่ร่วมสนับสนุน เตรียมแผนงาน จับมือเพื่อนำเสนอความพร้อมของประเทศไทยต่อฟีฟ่าในครั้งนี้

"สมาคมฯ ยินดียิ่งที่ประเทศไทยได้รับการพิจารณาและได้รับเกียรตินี้ แม้จะเป็นการประชุมขององค์กรฟุตบอล จากทั่วโลก ก็มีเรื่องสำคัญๆ ที่ต้องตัดสินใจกันในหลายวาระที่น่าสนใจกับผู้ที่ติดตาม"

ทั้งนี้ฟีฟ่าเป็นผู้เลือกและดำเนินการจัดประชุม เชิญและนำผู้แทน บุคคลสำคัญๆ ในวงการฟุตบอล ซึ่งจะเดินทางเข้ามาหลายพันคนในประเทศ ประเทศไทยจะได้ต้อนรับและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศในหลายๆ มิติ ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร การท่องเที่ยว ทั้งด้านวัฒนธรรมและอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันต้อนรับ

"อีกทั้งจะมีกิจกรรมแข่งฟุตบอลที่นำโดยดารานักฟุตบอลระดับโลกมา ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม  และฟีฟ่าเองจะมีโครงการ legacy โปรแกรมที่สร้างให้เป็นอนุสรณ์สถาน เพื่อความยั่งยืนในพื้นที่ หรือสถานที่ๆ ฟีฟ่ามองว่าฟุตบอลจะเข้าไปแก้ไขปัญหาด้านสังคมได้"

"กิจกรรมพบปะแฟนบอลของอดีตนักฟุตบอลระดับโลก (FIFA Legend) สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน ร่วมกับผู้นำประเทศของไทย และหน่วยงานสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้อง และกิจกรรมอีกมากมายที่ฟีฟ่าจะใช้เป็นเวทีแสดงจุดยืนแนวทางการพัฒนา ขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาเด็กและเยาวชน ที่ฟุตบอลจะเข้ามามีบทบาทได้ และอาจจะรวมถึงวาระการประกาศเจ้าภาพฟุตบอลโลกในครั้งต่อๆ ไปอีกด้วย"

นอกจากนี้ สหพันธ์ฟุตบอลทวีปอื่นๆ ก็จะใช้โอกาสนี้ในการจัดประชุมย่อยของแต่ละทวีปไปด้วย เช่น ยูฟ่า เอเอฟซี คอนคาเคฟ คอนมีโบล และโอเอฟซี

"สำหรับ สถานที่จัดหลักคือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ และโรงแรมโดยรอบมากกว่า 30 โรงแรมจะถูกใช้งานพร้อมๆ กัน รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย อาหาร กิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสด้วยกัน" 

"ในโอกาสนี้ขอฝากถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แฟนบอลชาวไทย ประชาชนคนไทย ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการต้อนรับบุคคลากรฟุตบอลจากทั่วโลกที่จะเดินทางเข้ามา และการเป็นเจ้าภาพที่ดีสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้" 

นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังได้แจ้งวาระสำคัญในการแข่งขันฟุตบอลรายการต่างๆ อาทิ

- อินโดนีเซีย ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ประจำปี 2023

- โคลอมเบีย ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลหญิงเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ประจำปี 2024

- สาธารณรัฐโดมินิกัน ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลหญิงเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ประจปี 2024

- อุซเบกิสถาน ได้รับเลือกให้เป็น เจ้าภาพจัดฟุตซอลโลก 2024

ซึ่งจะมีการยืนยันช่วงระยะเวลาการแข่งขันอีกครั้งในภายหลัง

ขณะเดียวกัน วาระสำคัญอื่นๆ ก็ประกอบไปด้วย

- ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก 2023 ที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเลื่อนจากเดิมวันที่ 16-26 พฤศจิกายน 2566 เป็น 15-25 กุมภาพันธ์ 2567

- การแข่งฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก รูปแบบใหม่ที่จะเริ่มในปี 2025 ได้เลือกสหรัฐอเมริกาให้เป็นเจ้าภาพ โดยจะมี 32 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน

- การเปิดให้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 

- ระเบียบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ที่จะมี 48 ชาติเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้