เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่รัฐสภา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังการเดินทางเข้ารายงานตัวกับสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า จะเข้ามาต่อสู้เพื่อไม่ให้มีการปฏิวัติหรือรัฐประหารเกิดขึ้นอีก และแก้รัฐธรรมนูญกำจัดซากเดนการยึดอำนาจให้หมดไป รวมทั้งจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ และยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ตลอดจนผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมการเมือง กรณีที่มีความเห็นแตกต่างทางการเมือง ย้อนไปถึงปี 49 แต่ไม่ได้ตั้งหลักการว่านิรโทษกรรมให้ใคร พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ช่วยเหลือใคร โดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องไปดูว่าเข้าข่ายหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการนิรโทษฏรรมหรือไม่ เพราะถ้าเป็นคดีทุจริตก็จะไม่ถูกนิรโทษกรรม
เมื่อถามถึงการโหวตเลือกประธานสภาฯ นพ.ทศพร กล่าวว่า อยากให้พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลไปคุยกันด้วยเหตุผล ตกลงกันให้ได้ว่าใครเป็นประธานสภาฯ ขอให้ทุกคนมีสติในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีหลักการพรรคที่ได้อับดับ1 ได้เป็นประธานสภาฯ เนื่องจากการเลือกตั้งแต่ละครั้ง ไม่เคยได้ยินใครหาเสียงว่า เลือกพรรคของตนแล้ว จะได้ใครเป็นประธานสภาฯ มีแต่ให้พรรคที่มีเสียงข้างมากเป็นประธานสภาฯ แต่ก็ไม่ใช่หลักการ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ส.ส. 500 คนว่าจะเลือกใคร
“ตำแหน่งประธานสภาฯไม่สามารถชี้เป็นชี้ตายได้เหมือนตำแหน่งนายกฯ เพราะมีหน้าที่ดูแลระบบนิติบัญญัติ และดูแลการประชุมสภาฯ ให้เป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อย เชื่อว่าปัญหาประธานสภาฯระหว่าง 2 พรรค จะไม่ส่งกระทบ และสร้างความแตกระหว่าง 2 พรรค จนทำให้จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้” นพ.ทศพร กล่าว
เมื่อถามในการโหวตประธานสภาฯ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยจะต้องยึดมติพรรคหรือไม่ นพ.ทศพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ ว่ามีมติพรรคออกมาอย่างไร การโหวตจึงเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. 500 คน ทุกคนมีสิทธิ์โหวต แต่ควรตกลงให้ได้ ว่าจะเสนอชื่อใครเป็นประธานสภาฯ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น