คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย

หากจะพูดถึงความเจนจัดในด้านการต่อสู้เรื่องคดีความ มองๆไปแล้วแทบจะไม่มีใครในแวดวงการเมืองและวงการธุรกิจที่จะมีความช่ำชองเชี่ยวชาญได้เทียบเท่ากับ “อดีตประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์” สืบเนื่องมาจากเขาได้ผ่านทั้งคดีแพ่งและคดีอาญามากกว่าสี่พันคดีนั่นเอง

ทว่าขณะนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเผชิญกับคดีอาญาที่ถาโถมเพิ่มเติมเข้าไปอีกหลายๆคดีที่ดูเหมือนว่า มีความเสี่ยงต่อการที่จะได้รับโทษสถานหนักถึงขั้นถูกจองจำอยู่ในคุกเลยทีเดียว!!!

โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2023 อัยการเขตนครแมนฮัตตัน ณ รัฐนิวยอร์ก ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 34 กระทง และดูเหมือนว่าคดีนี้ที่ตกเป็นข่าวใหญ่เกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปากดาราดาวโป๊เรื่องที่เขาเข้าไปกุ๊กกิ๊กมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่เขาได้ออกมากล่าวปฏิเสธภายหลังว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่มีมูลความจริง เป็นเรื่องกลั่นแกล้งต้องการที่จะทำลายอนาคตทางการเมือง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2023นี้ เขาก็ได้ถูกฟ้องจากรัฐบาลกลางอีก 37 กระทง ที่ความยาวของข้อกล่าวหามากถึง 49 หน้า สืบเนื่องมาจากการที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์นำเอาข้อมูลเอกสารลับไปเก็บไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยอมนำไปส่งคืนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง หลังจากที่พ้นออกจากตำแหน่งย้ายออกจากทำเนียบขาวแล้ว  โดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกข้อหาว่า “มีความจงใจที่จะเก็บข้อมูลด้านการป้องกันประเทศภายใต้พระราชบัญญัติจารกรรมเอาไว้ในครอบครอง”

ข้อมูลของคำฟ้อง 37 กระทงระบุว่า เอกสารลับที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ครอบครองอยู่ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันสหรัฐฯและนานาประเทศ รวมไปถึง ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ

ในคำฟ้องได้กล่าวอ้างว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์มิได้รับอนุญาตให้มีหน้าที่เก็บเอกสารลับเหล่านี้ ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และความปลอดภัยของกองทัพสหรัฐฯ

อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ถูกข้อกล่าวหาต่อไปว่า เขาได้นำเอกสารเหล่านั้นไปเก็บไว้ในห้องบอลรูม ห้องน้ำ ห้องทำงาน และห้องนอน!!!

และยังมีข้อหาที่ว่า “อดีตประธานาธิบดีทรัมป์พยายามขัดขวางการสอบสวนของเอฟบีไอในเรื่องการเก็บเอกสาร”

และเมื่อเขาเดินทางกลับถึงรีสอร์ทที่มาร์-อา-ลาโก รัฐฟลอริด้า เขาได้ออกมากล่าวโจมตีโยงไปถึง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน , อัยการสูงสุดเมอร์ริด การ์แลนด์,และ อัยการพิเศษเจ็ค สมิธ ในทำนองว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ นี่คือการแทรกแซงทางการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องของประธานาธิบดีโจ ไบเดน”

ทั้งนี้ “อัยการสูงสุดเมอร์ริด การ์แลนด์”เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทรณ์เขตโคลัมเบียแห่งสหรัฐฯ และเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2021 เข้าพิธีสาบานตน เพราะได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งอัยการสูงสุดของสหรัฐฯจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งอัยการท่านนี้มีหน้าที่รับผิดชอบพนักงานกว่า 115,000 คนของกระทรวงยุติธรรม

สำหรับชีวประวัติคร่าวๆของอัยการการ์แลนด์สำเร็จด้านกฎหมายจากฮาร์วาร์ด ระดับเกียรตินิยม และอุทิศตนทำงานทั้งในคดีอาญา คดีแพ่งและความมั่นคงแห่งชาติในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯมาอย่างยาวนาน โดยยังรับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนกฎหมายที่ฮาร์วาร์ดอีกด้วย

ส่วน แจ็ค สมิธ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 เขาได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่ง “ที่ปรึกษาพิเศษ” จากอัยการสูงสุดการ์แลนด์ให้เข้ามารับหน้าที่ด้านการดำเนินคดีอาญาต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ โดยที่ปรึกษาพิเศษแจ็ค สมิธ เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงจากการชนะคดียากๆมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นคดีอาชญากรสงครามหรือคดีตำรวจที่ฉ้อฉลคดโกง!!!

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายส่วนใหญ่ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นในทำนองที่ว่า ขณะนี้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างร้ายแรง

อนึ่งผู้พิพากษาที่ไปมีหน้าที่รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับการที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์นำเอกสารกลับไปเก็บที่บ้านตนเองก็คือ “ผู้พิพากษาไอลีน แคนนอน” ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปีค.ศ. 2019

อย่างไรก็ตามทันทีที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์โดนข้อหา 37 กระทง ปรากฏว่า บรรดาสมาชิกในค่ายพรรครีพับลิกันที่บางคนเป็นคู่แข่งในการแข่งขันการเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อเข้าไปลงแข่งขันเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีได้ออกมาปกป้องอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ที่มี อาทิ “ผู้ว่าฯรอน เดอซานติส” คู่แข่งคนสำคัญ และยังมี “วิเวก รามาสวามี” มหาเศรษฐีหนุ่มได้ออกมาแถลงว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาจะมอบอภัยโทษให้แก่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์

ส่วน “วุฒิสมาชิกมิตต์ รอมนีย์” ซึ่งสังกัดอยู่ในค่ายพรรครีพับลิกันเช่นกัน ได้ออกมากล่าวสนับสนุนการตัดสินใจของกระทรวงยุติธรรม โดยเขาได้กล่าวว่า “กระทรวงยุติธรรมมีความระมัดระวังในการตั้งข้อหา ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ นั่นแหละที่น่าจะมีความอับอายในการกระทำของตนเอง”

สำหรับ “อาซา ฮัทชินตัน” อดีตผู้ว่าฯรัฐอาร์คันซอ คู่แข่งอีกคนหนึ่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกมากล่าวว่า “อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ควรจะเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน”

และยังมี “วุฒิสมาชิกมิทช์ แมคคอนเนลล์” ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาได้ออกมากล่าวแถลงว่า “ข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมนับว่าร้ายแรง แต่ก็เป็นภาระและเป็นหน้าที่ๆกระทรวงยุติธรรมจะต้องทำการพิสูจน์”

โดย “ศาสตราจารย์เทอร์ลีย์ เทอร์ลีย์”แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องฟ็อกซ์นิวส์ว่า “คดีความ 37 กระทงที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับนั้น โดยในคำฟ้องมีรายละเอียดอย่างมากมาย และนับเป็นการฟ้องร้องที่น่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง” และศาสตราจารย์ผู้นี้ยังได้กล่าวชี้ต่อไปอีกว่า “อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สมควรที่จะหลอกตนเอง”

อีกทั้งศาสตราจารย์เทอร์ลีย์ เทอร์ลีย์ ยังได้อธิบายเพิ่มเติมต่อไปอีกว่า “ไม่สมควรอย่างยิ่งที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์นำเอกสารไปวางไว้ในห้องบอลรูมและในห้องน้ำ”

และยังมี “ศาสตราจารย์เคล แมคคลานาแฮน”แห่งมหาวิทยาลัยจอ์จ วอชิงตัน ได้ออกมากล่าวว่า “หลักฐานในคำฟ้องชี้ให้เห็นเด่นชัดแล้วว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เป็นตัวการสำคัญที่รู้ดีว่า เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลด้านอาวุธนิวเคลียร์ก็เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศและเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศอื่นๆด้วย”

ส่วน “อดีตอัยการสูงสุดวิลเลียม บาร์” ที่ดำรงตำแหน่งในสมัยของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์และเคยเป็นผู้ที่กางปีกปกป้องประธานาธิบดีทรัมป์อย่างแข็งขันขณะอยู่ในตำแหน่งตลอดมาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีบีเอสนิวส์เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2023 นี้ว่า “การกระทำของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับคดีเอกสารนั้น ถือเป็นพฤติกรรมประมาทเลินเล่อที่ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายต่อพรรครีพับลิกันอีกด้วย” โดยกล่าวโจมตีเพิ่มเติมต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์อีกว่า “เป็นคนหลงตัวเอง และมีพฤติกรรมบกพร่องโดยพื้นฐาน เหมือนกับเป็นเด็กอายุเก้าขวบที่ชอบท้าทายพ่อแม่ แต่ประเทศของเราไม่สามารถเป็นสถานที่บำบัดให้แก่ผู้ชายที่มีปัญหาเช่นนี้ โดยที่ผ่านมาข้อแก้ตัวของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในกรณีเอกสารช่างไร้เหตุผลสิ้นดี”

เป็นที่น่าสังเกตว่าข่าวการให้สัมภาษณ์ของอดีตอัยการสูงสุดบาร์ ได้มีการเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนแทบทุกฉบับ นับว่าความคิดเห็นของเขามีน้ำหนักมากทีเดียว

อนึ่งขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ต้องการที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทางด้านกฎหมายของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะถูกกล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังของการดำเนินคดีความดังกล่าว!!!

อย่างไรก็ตามคำฟ้องในคดีความต่างๆที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับนั้น ทางกฎหมายไม่ถือเป็นอุปสรรคในการลงสมัครรับตำแหน่งประธานาธิบดีแต่อย่างใด!!!

 และจากการหยั่งเสียงครั้งล่าสุดของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ซึ่งเป็นโพลที่ได้รับความเชื่อถือเป็นอย่างสูงเปิดเผยเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2023 นี้ว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่มขึ้น 2% เป็น 48% ส่วนคะแนนนิยมของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ร่วงหล่นลงมา 2% เหลือแค่เพียง 44%

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นดูเหมือนว่าขณะนี้ “อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”จะต้องเผชิญกับสองคดีดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เขาก็ยังมีคดีอาญาใหญ่ๆอีกสองคดีเกี่ยวกับความพยายามที่เขาต้องการจะพลิกผลการเลือกตั้งแถมท้ายเข้าไปเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งเขากำลังตกอยู่ในโหมดอันตรายเสี่ยงเข้าไปนอนอยู่ในซังเต แต่ในทางกลับกันหากเขารับชัยชนะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯอีกครั้งคราหนึ่ง เขาได้ประกาศกร้าวขู่ว่า จะคิดบัญชีกับทุกๆคนที่วางตัวเป็นศัตรู และหากวันนั้นเป็นไปได้และเกิดขึ้นจริงสหรัฐอเมริกาอาจจะเข้าสู่โหมดวิกฤติระส่ำระสายบ้านเมืองลุกเป็นไฟละครับ