วันที่ 22 มิ.ย.66 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าตำแหน่งประธานรัฐสภาต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย ว่า นายอดิศร อายุขนาดนี้แล้ว เคยผ่านอะไรมามากมาย เป็นส.ส.ตั้งกี่สมัย กี่พรรค ยังยอมเป็นเครื่องมือเกมน้ำเน่าอีก ทำเกินหน้าที่ใช่หรือไม่ นายอดิศรควรจะยืนข้างความถูกต้อง ตามที่เคยเป็นประเพณีปฏิบัติมา แต่กลับพูดเอาดีใส่ตัวว่าเมื่อให้ก้าวไกลได้ฝ่ายบริหาร แล้ว พรรคเพื่อไทยต้องได้ฝ่ายนิติบัญญัติ พูดอย่างนี้ได้ยังไง ทำไมลืมเสียงประชาชนที่มัมติส่วนใหญ่ให้ก้าวไกล ถ้าเอาใจเขาใส่ใจเรา หากคุณเป็นพรรคก้าวไกล จะยอมให้เก้าอี้ประธานรัฐสภาหรือไม่ ซึ่งก้าวไกลยอมให้รัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอหลายตำแหน่งแล้ว มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพรรคไหนได้คืบแล้วไม่พอแต่ยังจะเอาศอกอีก ตนขอฝากไปยังนายอดิศร เพราะเราคุ้นเคยกัน เรารู้จักกันดี  

ส่วนที่นายอดิศร ระบุว่า หากก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานรัฐสภาก็เหมือนให้พระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส นั้น นายอุเทน กล่าวว่า ที่ผ่านมา 4 ปี ในสภานั้น พรรคเพื่อไทยมีบทบาทสู้พรรคก้าวไกลได้หรือไม่ ถ้าผลงานสภาสู้ได้ คะแนนเสียง ที่ประชาชนเลือกมา คงไม่ปี้ป่น ขนาดนี้ และหากมีการเลือกตั้งใหม่ อยากให้พรรคเพื่อไทยซ้ำรอยพรรคประชาธิปัตย์หรือ ที่คะแนนจากนับร้อยเหลือเพียงนับสิบ

"ถ้าต่างคนต่างทำหน้าที่ รู้บทบาทของตัวเอง รู้สถานการณ์ วันนี้เป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ ถ้าทำไม่ดี ครั้งหน้าก้าวไกลก็ไม่มีทางได้ส.ส.หรือเป็นที่ยอมรับแบบนี้ ขอให้ดูพวกเขาว่าจะเปลี่ยนอะไรบ้าง จะทำได้แค่ไหน นี่คือบททดลอง ซึ่งถ้าเป็นส.ส.กันเรียบร้อย ได้ประธานรัฐสภาแล้ว เป็นรัฐบาลกันแล้ว ถึงเวลาถ้าเพื่อไทยไม่ยอม ยังไงสภามันก็ต้องยุบ ทำไมรอคอยกันไม่เป็นเหมือนที่ผมเคยเตือนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วยังออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยอีกสุดท้ายแล้วเป็นยังไง ต้องการสร้างความวุ่นวายให่้เกิดกับบ้านเมืองอีกหรือ" นายอุเทน กล่าว