วันที่ 22 มิ.ย.66 ที่อาคาร ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต หนังสือพิมพ์สยามรัฐ จัดงานเสวนา “ How to success with Digital Era” เนื่องในโอกาสครบรอบ 73 ปีหนังสือพิมพ์สยามรัฐ รายวัน โดยมีนายกตพล คงอุดม รองประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัท สยามรัฐ จำกัด นายวิโรจน์ วัฒนธาดากุล บรรณาธิการบริหาร นสพ.สยามรัฐ เข้าร่วม โดยมีวิทยากร ประกอบด้วย ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด และนายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า
นายสุกฤษฏิ์ กล่าวถึงการปรับตัวในโลกดิจิทัล ว่า เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ในส่วนของบริษัทเอง มองเรื่องดิจิทัล แอสเซส มันนี นอกจากนี้เรายังต้องมองต่อไปว่าเราจะใช้เทคโนโลยีไปเพื่ออะไรได้บ้าง ทั้งเรื่องของการสร้างโอกาส ลดต้นทุน แต่ขณะเดียวกัน ส่วนที่ถูกดิสรัปมากที่สุดคือวงการสื่อ ที่ได้รับผลกระทบ ในปัจจุบันเทคโนโลยีอย่างAI เข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
นายสุกฤษฏิ์ กล่าวว่า ในฐานะของคนที่ทำสตาร์ทอัพ ต้องบอกเลยว่าไม่ได้ง่าย ทรหดมากในช่วง5ปีที่เปิดบิทคับมา ขอฝากน้องๆนักศึกษา ว่าตอนที่เราเปิดบริษัทมา เรามีความหวัง ขณะเดียวกันเราต้องอดทน ปัญหาที่เข้ามาเป็นเรื่องใหม่ๆทุกวัน ในอนาคตหากน้องๆนักศึกษามีโอกาสได้ทำ ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดก็จะได้รู้ว่าอนาคตเราจะไปทางไหน สิ่งที่เราทำจะมีผลต่อประเทศมมกน้อยแค่ไหน เทคโนโลยีมีการดิสรัปตลอด ดังนั้นเราต้องศึกษา ดูว่าจะปรับใช้กับเราอย่างไร จะต่อยอดกับธุรกิจเราได้บ้าง หากเรามีมายด์เซ็ท เราจะต่อยอดได้ หากเราเรียนรู้การใชเทคโนโลยี เราก็จะปรับตัวได้ทัน
ผศ.ดร.ณัฐพล ได้กล่าวถึงโอกาสสำหรับนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาใหม่ที่ต้องปรับตัวต่อเทคโนโลยี ต้องให้ดูถึงโครงสร้างประชากรก่อนว่า เด็กที่จบหมดจะได้งานทำจำนวนเท่าใด ธุรกิจเกษตร คือจุดที่มีโอกาส หากเราทำได้ เรารู้เรื่อง หลายคนกลับบ้านแล้วสร้างทรัพยากรด้านเกษตร เกิดขึ้นแล้วรวยได้ ส่วนภาคการผลิต คือเป็นผู้ผลิตต้องแข่งกันที่ดีไซน์ ทำให้มีชีวิตในโลกดิจิทัล สินค้าอาหารก็เช่นเดียวกัน อาจจะใช้เทคโนโลยีทำเรื่องแปรรูปสินค้าอาหาร ใช้เทคโนโลยีเช้าไปเสริม ส่วนธุรกิจเซอร์วิส ต้องดูด้วยว่า มีรายได้แบบยั่งยืนหรือไม่
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า สิ่งที่ดีป้าพยายามทำ คือการสร้างโอกาสใหม่ ให้กับนักศึกษาที่จบใหม่ปีละ 3แสนคน การสร้างอาชีพที่เป็นวิชาชีพ สร้างสตอรี เป็นคอนเทนท์ครีเอเตอร์ คือการทำงานแบบมีมูลค่า นอกจากนี้ยังมองอุตสาหกรรม คือการออร์แกนไนซ์ กลุ่มนี้คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์เยอะมาก คิดว่าหลายธุรกิจที่มีอยู่แล้วก็กลับดูว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร การทำให้โอกาสเกิดใหม่ แต่สร้างพันธมิตร กับคนทั่วโลก หากเราปิดตัวเองเมื่อไหร่ แต่ไม่ถ่ายทอดความรู้ สเกลจะเติบโตได้มากขึ้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกยุคAI แต่ขณะเดียวกันก็จะเปิดโอกาสให้เราได้มีอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นด้วย มีโอกาสใหม่ๆเกิดขึ้น โดยทุกอาชีพสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ร่วมกัน
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โจทย์หลักอยากจะพูดในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่จะเข้าไปบริหารประเทศ เราต้องการให้ประชาชนเข้ามามีสิทธิมีเสียงอย่างแท้จริง วันนี้ปัญหาโครงสร้างรัฐมีมาก เราต้องแก้ไขด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ ข้อเสนอต่างๆ จะทำไม่ได้หากเราไม่แก้โครงสร้างรัฐก่อน วันนี้หากเราไม่สามารถตัดปัญหาของประชาชนออกจากรัฐส่วนกลาง ดังนั้นได้ ใน100 วันแรก สิ่งที่เราจะทำคือการรณรงค์สอบถามจะให้มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเฉพาะเรื่องการควบรวมราชการส่วนภูมิภาคให้ไปอยู่กับประชาชน ให้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน
นอกจากนี้บทบาทของภาครัฐ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การที่ได้รัฐบาลที่ฟังเสียงของประชาชนมากขึ้น รัฐบาลควรสนับสนุนเอาเงินภาษีไปให้โดยตรง อาจนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นได้ แต่หากให้เอกชนเข้ามาร่วมด้วยการทุจริตจะเกิดขึ้นได้น้อย จากนี้คาดว่าจะเกือบอีก สองเดือนสำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะมีการจัดตั้งได้ ที่ผ่านมาไม่ได้มีอุปสรรคเรื่องเทคโนโลยี แต่ที่ขาดคือคนที่มมาเคาะหัวโต๊ะว่าใครควรมีบทบาท ในด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง ต่อไปการเลือกตั้งท้องถิ่น ดิจิทัลไอดี เราสามารถโหวตการใช้งบประมาณในท้องถิ่นได้โดยตรง เราสามาถเลือกเทคโนโลยีมาบาลานซ์ อย่างไรก็ตาม รัฐควรตามเทคโนโลยีให้ทัน
นายวรนัยน์ กล่าวว่า บทบาทสำหรับรัฐบาลใหม่ ที่เราอยากเห็นคืออยากให้กระทรวงดีอีเอส ส่งเสริมเทคโนโลยี และธุรกิจ ปัญหาของเราคือโครงสร้างรัฐบาล ทำให้ภาครัฐตามโลกไม่ทัน การปรับตัวของเรา ไม่ใช่แค่ให้เอกชนปรับตัวเท่านั้น แต่ต้องปรับที่โครงสร้าง ต้องให้เข้ากับบริบทในยุคปัจจุบัน เราหวังว่ารัฐบาลใหม่จะทำได้ เพราะแม้จะมีรัฐบาลใหม่าเข้ามา แต่การตรวจสอบของภาคประชาชนไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งตรวจสอบมากเท่าใด ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น
นายวรนัยน์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากสิ่งสุดท้าย คือนในภาพรวม สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าเราจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร บนแพลตฟอร์มอะไร แต่เราต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันทั้งประเทศ หมายความว่าต้องไม่มีฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ชนะ แต่เราต้องสร้างสมดุลทางอำนาจแล้วเดินไปด้วยกัน หากประเทศสามารถเดินต่อไปข้างหน้า ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจ เราต้องช่วยกันเพื่อไม่ให้ติดกับดักเหมือนกับที่ผ่านมาหลายสิบปี