วันที่ 20 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับ ความเคลื่อนไหวของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ หลังจาก กกต.กลาง มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง อย่างเป็นทางการทุกเขต ในส่วนของ จ.นครพนม มีทั้งหมด 4 เขต จากพื้นที่ 12 อำเภอ ผลการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 คือ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส. พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 3 นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ส.ส. พรรคภูมิใจไทย และ เขตเลือกตั้งที่ 4 นายชูกัน กุลวงษา ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ต่างพากันเดินทางไปรับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งที่ กกต. กลาง พร้อมเดินทางไปรายงานตัวที่สภาผู้แทนราษฎร ในวันแรก

สำหรับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนสำคัญที่น่าจับตามอง ถือว่าเป็นแชมป์เก่า สมัยที่ 5 คือ ดร.มนพร เจริญศรี อายุ 58 ปี ส.ส. เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย ถือเป็นแชมป์เก่าขวัญใจพี่น้องประชาชน ที่ทำงานการเมืองมานานกว่า 20 ปี เคยอาสารับใช้พี่น้องประชาชน ได้รับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภา อบจ.นครพนม มาตั้งแต่ปี 2537 จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจจากพี่น้อง ชาว จ.นครพนมมายาวนาน

ด้วยเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ทางการเมือง และยึดหลักประชาธิปไตย เคียงข้างประชาชนมาตลอด ทำให้ก้าวหน้าทางตำแหน่งการเมือง มีโอกาสรับตำแหน่งรอง นายก อบจ.นครพนม รวมถึง นั่งตำแหน่ง นายก อบจ.หญิง คนแรกของ จ.นครพนม ที่สำคัญ ยังได้มีโอกาสก้าวสู่เส้นทางการเมืองระดับชาติ ได้รับการเลือกตั้ง เป็น ส.ส. หญิง คนแรก ของ จ.นครพนม โดยเฉพาะการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา  นับเป็นการเลือกตั้ง ที่สร้างประวัติศาสตร์ ต้องต่อสู้กับฝ่ายเผด็จการ ทั้งอำนาจ บารมี หลังจากมีการปฏิบัติ รัฐประหาร และสืบอำนาจ มานานกว่า 8 ปี แต่ยังทำให้ ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส. เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย ยังฝ่าอำนาจเผด็จการ ด้วยจุดยืนทางการเมือง ที่ไม่เคยเปลี่ยนขั้วอำนาจ รวมถึงเคียงข้างพี่น้องประชาชนมาตลอด ทำให้ชนะการเลือกตั้ง แบบท่วมท้น

ด้าน ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส. เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดใจภายหลังการรายงานตัวรับตำแหน่ง ส.ส. เขต 2 นครพนม ว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ความสำเร็จส่วนตัว แต่เป็นความสำเร็จ รวมถึงเป็นพลังของพี่น้องประชาชนทุกคน ที่ร่วมสร้างประชาธิปไตย หลังจากต้องต่อสู้กับเผด็จการมานานกว่า 8 ปี อีกทั้งหลายครั้ง ที่ฝ่ายประชาธิปไตย ถูกรัฐประหาร แต่ในที่สุด ทุกคนยังยึดมั่นประชาธิปไตย การเลือกตั้งครั้งนี้ เราขอให้ช่วยกันจดจำไปตลอด ว่าเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ตนขออยู่เคียงข้างประชาชนตลอดไป เชื่อมั่นว่า พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเสียงข้างมาก คือ พรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย จะสามารถ ร่วมกับพรรคที่มีจุดยืนประชาธิปไตย ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จอย่างแน่นอน ยืนยันหลังการจัดตั้งรัฐบาล ตนจะนำนโยบายที่ดี เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ ทั้งการสร้างงาน สร้างอาชีพ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

รวมถึง ราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ จะต้องได้รับการแก้ไข ขอให้เชื่อมั่นพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนเรื่องปัญหาเกี่ยวกับการวางตำแหน่งประธานสภาผู้แทน รวมถึงการวางตำแหน่งรัฐมนตรี ขอให้เป็นไปตามกฎกติกาของระบอบประชาธิปไตย เชื่อมั่นมไม่กระทบการพัฒนาประเทศ สุดท้ายทุกคนต้องยึดกฎกติกา ฟังเสียงข้างมาก และยึดเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง ตนขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ที่สนับสนุนให้ฝ่ายประชาธิปไตย มีโอกาสเข้ามาพัฒนา รับใช้พี่น้องประชาชน