“เศรษฐา” นำทีม ส.ส.เพื่อไทยลงพื้นที่เชียงใหม่ รับฟังปัญหาผู้เลี้ยงช้าง-เกษตรกร พร้อมแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร ชี้รัฐบาลประยุทธ์ ไร้หัวใจ ไม่หาหนทางเปิดตลาดต่างประเทศ ช่วยระบายสินค้าและยกระดับราคา
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน ผู้ได้รับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นพ.ไกร ดาบธรรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ นายนิธิกร วุฒินันชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เข้าพบเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์และนายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย ที่ปางช้างแม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเมื่อครั้งที่นายเศรษฐาเป็นประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ ได้ร่วมผลักดันบริจาคกับสมาคมสหพันธ์ช้างไทยช่วยช้างในการจัดสรรที่ดินพัฒนา เพาะปลูกหญ้าเนเปียร์เป็นอาหารเลี้ยงช้างกว่า 70 ไร่ โดยมีผลผลิตกว่า 20,000 ตันต่อปี
โดยนายเศรษฐา พร้อมคณะได้เยี่ยมชมการเลี้ยงช้างและรับฟังเสียงสะท้อนจากตัวแทนปางช้างแม่ริม สมาคมสหพันธ์ช้างไทย เกี่ยวกับการช่วยเหลือดูแลชีวิตช้างที่ยังขาดแคลนรถกู้ภัยสำหรับช้าง ที่มีมูลค่าคันละ 4-5 ล้านบาท และในประเทศไทยก็มีเพียง 1 คัน และค่าขนช้างครั้งหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท จึงร้องขอให้รัฐบาลใหม่ช่วยผลักดันเรื่องนี้ รวมทั้งการดูแลช้างอย่างเป็นรูปธรรมผ่านสถาบันคชบาลแห่งชาติ หรือถ้ารัฐบาลในอนาคตผลักดันองค์กรใหม่มาดูแลรับผิดชอบได้
นายเศรษฐา ระบุว่า จะช่วยประสานกับทาง บมจ.แสนสิริ มาทำเชิงรุกด้านการประชาสัมพันธ์ให้กับปางช้าง ในเรื่องขอการเลี้ยงดูช้างให้มีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างไร และการรักษาช้างซึ่งไม่ใช่เป็นการทรมาน รวมทั้งยังรับปากด้วยว่าจะบอกเพื่อนฝูงที่มีที่ดินไม่ได้พัฒนาให้ช่วยหาพื้นที่ปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อเป็นอาหารให้กับช้างที่ปางแม่ริม
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายเศรษฐา พร้อมคณะลงพื้นที่ ต.สะลวง อ.แม่ริม โดยตั้งวงกับพบตัวแทนกลุ่ม young smart farmers และเกษตรกรในพื้นที่เพื่อร่วมรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาการผลผลิตการเกษตร โดยตัวแทน young smart farmers ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการเกษตรโดยสรุปชี้ให้เห็นปัญหาว่า ขณะนี้โครงสร้างอำนาจรัฐมีปัญหาจึงอยากขอให้มีการพิจารณากระจายอำนาจเพื่อทำงานแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพศักยภาพมากขึ้น รวมทั้งฝากความหวังพรรคเพื่อไทยพิจารณาปัญหาเรื่องปัจจัยการผลิต ปุ๋ยและยาฆ่าแลง รวมไปถึงราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคาข้าว ราคาลำไย ที่อาจจะต้องพิจารณาถึงกระบวนการแทรกแซงราคาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างได้ผล เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมาค่อนข้างล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาราคาสินค้าเกษตรกรที่ผ่านมา เป็นเพราะผู้นำรัฐบาลไร้หัวใจ เพราะไม่เปิดตลาดสินค้าในต่างประเทศ ดังนั้นถ้ามีความต้องการตลาดลำไยในต่างประเทศ ทำไมถึงไม่นำลำไยไปขายต่างประเทศ สำหรับข้อเสนอเรื่องการจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างรัฐนั้นหากจะสามารถทำได้ก็ต้องให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทำหน้าที่ เพราะเป็นว่าที่นายกฯ เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและ young smart farmers ด้วย
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขณะนี้เกษตรกรต่างเจอปัญหาราคาปุ๋ย จะให้เหมือนก่อนคงไม่มีทาง ดังนั้นในกระบวนการผลิตต้องลดใช้ปุ๋ยใช้ยา ลดการพึ่งพาปุ๋ย เพื่อลดต้นทุนพรรคเพื่อไทยยืนยันจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยคณะกรรมาธิการ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในเรื่องราคา โดยเฉพาะราคาข้าว