วันที่ 20 มิ.ย.2566 ที่ศาลาว่าการกทม.นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กทม.ได้ประสานกับสำนักงานเขตต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบายสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่สาธารณะทั่วกรุงเทพมหานครโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และกำหนดให้สำนักงานเขตอนุมัติใบขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ไม่เกิน 3 วัน หากเกินต้องชี้แจงเหตุผลผู้ขออนุญาต นอกจากนี้ ยังมีแผนตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) เพื่อประสานกับหน่วยงานต่างๆ ในการถ่ายทำภาพยนตร์
นายศานนท์ กล่าวถึงที่มาของนโยบายดังกล่าวว่า จากการหารือกับผู้ผลิตภาพยนตร์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พบว่า การประสานงานเพื่อติดต่อขอถ่ายทำภาพยนตร์ในที่สาธารณะทำได้ยาก เป็นอุปสรรคของผู้ผลิตภาพยนตร์ เช่น ติดต่อผู้เกี่ยวข้องไม่ได้ ขั้นตอนไม่ชัดเจน รวมถึงการใช้ดุลยพินิจต่างๆ อาจก่อให้เกิดการทุจริต อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับและสนับสนุนจากแวดวงภาพยนตร์เป็นอย่างมาก ทั้งสมาคมผู้กำกับ production house ซึ่งต้องการให้การถ่ายทำภาพยนตร์มีความสะดวกมากขึ้น ส่งผลถึงการสร้างซอฟต์ พาวเวอร์ให้เมือง และการมีส่วนร่วมของผู้คนมากขึ้น
จากการประชุมคณะทำงานการถ่ายทำภาพยนตร์และสื่อบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ล่าสุดกำหนด แนวทางการอนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์และสื่อบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดังนี้ สำหรับพื้นที่สวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร 1.ผู้ขออนุญาตต้องสำรวจพื้นที่สวนสาธารณะที่จะขอใช้ 2.ผู้ขออนุญาตสามารถติดต่อกับสวนสาธารณะนั้นๆ หรือสำนักสิ่งแวดล้อม 3.ผู้ขออนุญาตต้องยื่นคำขอก่อนใช้พื้นที่อย่างน้อย 7 วันทำการ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วให้ชำระค่าใช้จ่ายที่สำนักสิ่งแวดล้อม ศาลาว่าการกทม.ดินแดง 4.อำนาจในการอนุญาตให้ใช้สวนสาธารณะกรุงเทพมหานครเป็นของผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม และการอนุญาตไม่ควรเกิน 3 วันทำการนับแต่วันยื่นขออนุญาต หากเกินจากนั้นต้องแจ้งเหตุผลให้ผู้ขออนุญาตทราบ
สำหรับพื้นที่สาธารณะในกรุงเทพมหานคร มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 1.ผู้ขออนุญาตทำหนังสือถึงสำนักงานเขตพื้นที่ 2.เมื่อผู้อำนวยการเขตอนุญาตแล้ว ไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ แต่สามารถเรียกเก็บค่าปรับได้หากผู้ขออนุญาตฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของพื้นที่ที่ได้ประกาศไว้
นายศานนท์ กล่าวว่า นอกจากถ่ายทำภาพยนตร์ ยังสนับสนุนการถ่ายทำสื่อบันเทิงต่างๆ เช่น มิวสิกวิดีโอ หนังสั้น สารคดี เป็นต้น โดย กทม.วางแผนจัดตั้ง One Stop Service เพื่อร่วมกับหน่วยงานภายนอก ผลักดันมิติอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น สนับสนุนของดีกรุงเทพมหานคร ชุมชน สถาปัตยกรรม เชื่อว่าฉากถ่ายทำจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯสวยงามไม่แพ้ชาติใด โดยตั้งเป้าให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของ Soft Power ในอนาคต