กนอ.จับมือ ส.อ.ท.,กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ 17 กลุ่ม ประกาศเจตนารมณ์ร่วมส่งเสริมการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน (Sustainable supply chain) ด้วยการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor)
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวระหว่างแถลงความร่วมมือแสดงเจตนารมณ์การส่งเสริมการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน (Sustainable supply chain) ด้วยการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Eco Factory for Waste Processor) ว่า กนอ. และ ส.อ.ท. ร่วมพัฒนามาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ตั้งแต่ปี 2560 และในปี 2565 ได้พัฒนามาตรฐาน Eco Factory For Waste Processor โดย กนอ. ร่วมประกาศเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการจัดการของเสีย (Waste Processor) ในนิคมอุตสาหกรรมได้รับการรับรองมาตรฐาน Eco Factory For Waste Processor เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 และเพื่อขยายผลความร่วมมือดังกล่าว กนอ. จึงร่วมแสดงเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor อย่างน้อยระดับพื้นฐาน (Beginner) และส่งเสริมให้ผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) เลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับรอง Eco Factory for Waste Processor ด้วย เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการโซ่อุปทานในภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นในการส่งของเสียไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักการจนจบสิ้นกระบวนการ โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหากับชุมชนและสิ่งแวดล้อมตามมาภายหลัง
ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และขอรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพิ่มมากขึ้น กนอ. ได้ประกาศสิทธิประโยชน์/มาตรการจูงใจต่อการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สำหรับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม และผู้ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรม โดยผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory ) หรืออุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระดับ 3 ขึ้นไป หรือธงขาวดาวทอง จะได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าบริการคำขอด้านการใช้ที่ดินและประกอบกิจการ และด้านสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2567 โดยสามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ผ่านระบบอนุมัติอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ (e-Permission Privilege : e-PP) ของ กนอ.
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส.อ.ท. มีนโยบายสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้เป็นไปอย่างยั่งยืน เกิดสมดุลในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดรับกับนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ BCG Model ของรัฐบาล ด้าน Green Economy และ Circular Economy ส.อ.ท. ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ จัดการกากอุตสาหกรรมอย่างถูกวิธีและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า ปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมให้ยกระดับมาตรฐานการจัดการกากอุตสาหกรรมด้วยตราสัญลักษณ์ Eco Factory For Waste Processor พัฒนาแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนของเสีย (Circular Material Hub) เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและผลิตภัณฑ์พลอยได้ โดยอาศัยแนวคิดการเปลี่ยน Waste จากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปเป็นวัตถุดิบ หรือ Materials ให้อีกอุตสาหกรรมหนึ่ง ตามหลัก Circular Economy
โดยผู้ประกอบกิจการภาคอุตสาหกรรม ยังร่วมประกาศเจตนารมณ์พร้อมทั้งแสดงจุดยืนภายในงาน เพื่อเน้นย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรที่มีต่อการส่งเสริมการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนด้วยการเลือกใช้ผู้ประกอบการจัดการของเสียที่ได้รับรอง Eco Factory for Waste Processor ไว้ด้วย อาทิ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) และผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรม 11 กลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้การกำกับดูแลของ ส.อ.ท. ที่มุ่งมั่นดำเนินอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยินดีร่วมขับเคลื่อน ผลักดัน และสนับสนุนการบริหารจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน
สำหรับปัจจุบัน กนอ. และ ส.อ.ท. ให้การรับรองโรงงานอุตสาหกรรมภายใต้มาตรฐาน Eco Factory จำนวน 379 แห่ง ส่วนมาตรฐาน Eco Factory for Waste Processor จำนวน 9 แห่ง และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมจำนวน 18 แห่ง