เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 20 มิ.ย. 66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สืบเนื่องกรณีที่กกต. มีมติ การรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้ง 500 คน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ส.ส. จะสามารถเข้าหนังสือรับรอง เพื่อรายงานตัวต่อรัฐสภาต่อไป  ทั้งนี้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้เข้ารับหนังสือรับรองของตนเอง พร้อมเป็นตัวแทนรับหนังสือรับรองของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคและส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ 

โดยร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงความรู้สึกในวันนี้ ว่า ตนเชื่อว่าทุกคนดีใจ ที่ได้เดินทางมารับหนังสือรับรองและรายงานตัวส.ส. โดยในวันนี้ตนได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร ให้มารับหนังสือรับรองแทน เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ติดภารกิจในช่วงเช้า ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) และในช่วงบ่ายตน และพล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปรายงานตัวต่อรัฐสภา

เมื่อถามถึงทิศทางทางการเมืองของพรรค จะมีแนวทางอย่างไรต่อไป ภายหลังจากการรับรองส.ส. ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากกกต. ยังไม่รับรองการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ทางคณะกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ตนประสานงานกับว่าที่ ส.ส. ทุกท่านว่า ให้อยู่เงียบๆ นิ่งๆ เพราะต้องมีมารยาททางการเมือง 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่หากโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เนื่องจากติดล็อก ส.ว. พรรคพปชร.จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้มีการพูดคุยกันตลอด เพราะการจะตัดสินใจทิศทางทางการเมืองนั้น ต้องอยู่ที่อำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ยืนยันว่า หลังจากนี้ไปพรรคพลังประชารัฐจะอยู่นิ่งๆ จนกว่าจะมีการเปิดประชุมสภาฯ อย่างเป็นทางการ 

เมื่อถามต่อว่ามีการประเมินในเรื่องนี้อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า “ไม่มีดีลลับ” พร้อมกล่าวว่า ในเรื่องของการเมืองมีการวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านสื่อมวลชน แต่ข้อเท็จจริง ในฐานะที่ตนใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรค ยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยใดๆ 

เมื่อถามถึงในเรื่องของการโหวตเลือกประธานสภาฯและจะโหวตนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เบื้องต้นจะมีการประชุม ส.ส. เร็วๆ นี้ถึงทิศทางของการโหวตทั้งประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี หากอ้างอิงตามรัฐธรรมนูญ2560 การโหวตเลือกประธานสภาฯ เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นสิทธิของทั้ง 2 สภาซึ่งคาดว่า คงเป็นไปตามมติพรรค พร้อมยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ได้ให้นโยบายไว้ว่า ควรให้พรรคที่ได้รับเสียงมากเป็นอันดับหนึ่งของประชาชนในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอรายชื่อบุคคลรับการโหวตเป็นประธานสภาฯหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกพรรคมีโอกาสเสนอหมด และไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมาก เช่น ยุคนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นคนเสนอ

เมื่อถามต่อถึงกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ อาจจะเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานสภาฯ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เพิ่งจะทราบพร้อมสื่อมวลชน แต่เบื้องต้นไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด เมื่อถามย้ำว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปได้