เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2566 ที่ห้องมูลนิธิพ่อสมชาย ดีเบส อ.เมือง จ.น่าน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายทรงยศ รามสูต ว่าที่ ส.ส.น่าน นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ว่าที่ ส.ส.น่าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นพ.นิยม วิวรรธดิฐกุล ว่าที่ ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย พบตัวแทนผู้ผลิตและผูัประกอบการวิสาหกิจ ผู้ปลูกกาแฟและโกโก้ โดยมีตัวแทนชมรมกาแฟพิเศษน่าน ซึ่ง จ.น่าน มีพื้นที่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าสร้างเม็ดเงินและรายได้ให้เกษตรกรชาว จ.น่าน
นพ.ชลน่าน ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยเพื่อจะมาสอบถามปัญหากับชาวบ้าน ชาวสวนที่ทำการเกษตร พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะแก้ปัญหาให้กับทุกคน
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายเศรษฐา และนพ.ชลน่าน พร้อมด้วยคณะว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปยังลานรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ที่บ้านห้วยซ้อ ต.หมอเมือง อ.แม่จริม จ.น่าน พบกับตัวแทนเกษตรกรและตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกไร่กาแฟ อ.แม่จริม ทั้งนี้มีการรายงานต่อคณะของพรรคเพื่อไทยว่า ผลผลิตเก็บเกี่ยวของไร่กาแฟเมื่อปี 2565 สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 100 ตัน สร้างมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท พร้อมทั้งลงพื้นที่ดูไร่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า
โดยนายเศรษฐา ระบุกับตัวแทนเกษตรกร ว่า แม้ขณะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาหาเสียงแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ให้บ่อยขึ้น และจะมีผู้ใหญ่ของพรรคลงมารับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ มากขึ้นเพื่อดูแลปัญหาของพี่น้องประชาชน
ส่วน นพ.ชลน่าน ได้กล่าวขอบคุณตัวแทนเกษตรกร อ.แม่จริม ที่ลงคะแนนให้ตนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.น่าน
นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า จะลงพื้นที่ในลักษณะนี้ให้สม่ำเสมอ เพราะการมาลงพื้นที่ จ.น่าน นั้นต้องการมาดูการปลูกไร่กาแฟ ในอนาคตจะมีความต้องการในตลาดโลกที่สูงขึ้นในอีก 10-20 ปี กินทั้งจังหวัดน่านจะมีสภาพพื้นดินเหมาะแก่การปลูกกาแฟ แล้วก็จะหาวิธีให้ จ.น่าน ปลูกกาแฟได้มากขึ้นด้วย
จากนั้น นายเศรษฐา เดินทางต่อไปยังจังหวัดแพร่ โดยเป็นประธานสัมมนาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ 23 กลุ่มที่โรงแรมแพร่นครา โดยมีว่าที่ส.ส.จ.แพร่ คือ นพ.ทศพร เสรีรักษ์, นพ.นิยม วิวรรธดิฐกุล และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ร่วมสัมมนาด้วย