นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยความคืบหน้าการใช้กล้อง AI ตรวจจับรถจักรยานยนต์ขับขี่ จอดบนทางเท้า ว่า กทม.เริ่มนำกล้องAI มาใช้ตรวจจับรถจักรยานยนต์ขับขี่ จอดบนทางเท้า รวมถึงรถที่จอดในที่ห้ามจอดซึ่งได้เริ่มดำเนินการในส่วนที่มีความพร้อมมาได้สักระยะแล้ว โดยใช้กล้อง ซีซีทีวี ของสำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ที่มีอยู่เดิม ตามทางแยกหรือจุดต่างๆ ที่มีศักยภาพมาปรับมุมกล้องให้สามารถเห็นจุดที่รถจักรยานยนต์ฝ่าฝืนวิ่งหรือจอดบนทางเท้า โดยศูนย์ควบคุมกล้องซีซีทีวี กทม.จะรวบรวมข้อมูลที่ได้จากกล้องนำมาประมวลผล ตรวจสอบผู้ครอบครองรถเพื่อออกใบสั่ง โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกฝ่าฝืนกระทำผิดบนทางเท้า ซึ่งอยู่ในอำนาจของกทม.สามารถดำเนินการจับปรับได้ โดยอาศัยอำนาจตามพรบ.รักษาความสะอาดเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 17 มีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท ซึ่ง กทม. กำหนดอัตราค่าปรับขั้นต่ำ 2,000 บาท  

 

ส่วนที่ 2 หากฝ่าฝืนกระทำผิดบนผิวจราจร เป็นอำนาจของตำรวจที่จะดำเนินการจับปรับ กทม.จะส่งข้อมูลดังกล่าวให้ทางตำรวจดำเนินการด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งเท่าที่ทราบตำรวจที่ออกใบสั่งด้วยวิธีอิเลกทรอนิกส์ จะไม่ได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ ต่างจากการออกใบสั่งให้กับผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดโดยตรง ดังนั้นทำให้ปัจจุบันจำนวนใบสั่งลดน้อยลง ขณะนี้กทม.อยู่ระหว่างหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างแรงจูงใจให้ตำรวจออกใบสั่งผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำความผิดตามกฎหมายเพิ่มขึ้น หากทำได้เท่ากับว่ารายได้ของกทม.จากส่วนแบ่งค่าปรับจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

 

นายวิศณุ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ สจส. และสำนักเทศกิจ สำรวจพื้นที่ในตำแหน่งที่พบว่ามีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดมากๆ เพื่อติดตั้งกล้องAI เพิ่มเติม เพื่อให้การกวดขันได้ผลจริงจัง เบื้องต้นตั้งเป้าจะติดตั้งประมาณ 200 จุด ถ้าประเมินแล้วใช้งบประมาณไม่มากก็จะเสนอขอใช้งบกลาง ซึ่งจะต้องดำเนินการขออนุมัติก่อนสิ้นปีงบประมาณเดือนก.ย. นี้ อย่างไรก็ตามหากต้องใช้งบประมาณจำนวนมากจะต้องเสนอขอแปรญัตติงบประมาณปี 67 ดำเนินการ