เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 มิ.ย.66 ที่ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมทนายความ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. จำนวน 2 นาย คือ พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 และ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันตบทรัพย์ 140 ล้านบาท เพื่อแจ้งความกับนายธนินวัฒน์ หรือเป้ อายุ 39 ปี ในข้อหา แจ้งความเท็จกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา  และบุคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในความผิด อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้  และถ้าหากพบว่ามีใคร ที่ร่วมกันแจ้งความก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีกับคนอื่นเพิ่มเติมอีก 

ทางด้าน พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 กล่าวว่า ในเบื้องต้นตามที่เราไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สโมสรตำรวจนั้น ตามที่ได้กระทำความผิดตามที่เขาได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับเราให้เราได้รับโทษทางอาญา คือเราก็ใช้สิทธิ์ของเรา 2 คน เพื่อรักษาสิทธิ์ของเราว่าเราไม่ได้กระทำความผิด เพราะเขาแจ้งความเท็จ ก็เดินทางมาแจ้งความเพื่อพิสูจน์ความจริงว่าสิ่งที่เขพูดไม่ได้เป็นความจริง เป็นการแจ้งความเท็จเพื่อให้เราได้รับโทษทางคดีอาญา เบื้องต้นพยายามสอบถามกับทางพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ว่าใครบ้างที่แจ้งความเรา ว่าเป็นเป้ คนเดียว หรือ 6 คนตามบันทึกรายงานเหตุ เพราะบันทึกนั้นเป็นบันทึกที่แจ้งไปทาง สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ว่ามีผู้เสียหายทั้งหมด 6 คนนั้นก ล่าวหาตนว่าอย่างไร กล่าวหาอะไรบ้าง 6 คนนั้นกล่าวหาตำรวจชลบุรีอย่างไรบ้าง โดยพฤติการที่เขาแจ้งความ เขาก็ไม่ได้บอกว่า แจ้งโดยใคร พยายามสอบถามแล้วแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ แต่ที่แน่ๆ ที่บอกคือเป้ คนเดียวที่แจ้งความเอาผิดกับเรา เราก็ต้องรักษาสิทธิ์ เพราะเราไม่ได้ทำอย่างที่เขาแจ้ง เราจึงต้องรักษาสิทธิ์  คือตอนนี้ เราพยายามหาคำตอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากทีมพนักงานสอบสวน เราก็ไม่ได้อยากแจ้งคนที่ไม่ได้กล่าวหาเรา ถ้าคนที่เขาไม่ได้กล่าวหาเราจะไปแจ้งเอาผิดเขาก็ไม่ดี ก็เอาเป้คนเดียวก่อน แต่ถ้าหาพบว่ามีบุคคลอื่นที่เข้ามาให้การเท็จยืนยันเป็นพยาน หรือแม้แต่กล่าวหาว่าพวกตนร่วมด้วย เราก็จะมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มนอกจาก

"ผมยืนยันในคำพูดแล้วว่าไม่ได้กระทำผิด ผมยังมีคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่ามันไม่มีเหตุการณ์อะไรที่นั้น ขนาดตอนที่ส่งตัวเขาขึ้นรถ ให้ตรวจรับ เขายังไม่อยากตรวจรับเลย มีอะไรสูญหาย มีอะไรเสียหายไหม เขาก็บอกยืนยันว่าไม่มีในบันทึกในการลงนามของเขาก็บอก ผมเองก็ไม่เข้าใจว่ามาให้การกลั่นแกล้งเราทำไม  ซึ่งหลังจากที่เราส่งตัวให้ตำรวจชลบุรีแล้ว เราก็ไม่ทราบว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะตอนนั้นเสร็จสิ้นภาระกิจของผมแล้ว เราก็ไม่ทราบว่าตำรวจชลบุรี ที่เป็นหน่วยหลักที่ดำเนินการคดี แล้วจะรับไป ไปขั้นตอนอย่างไร หรือทำขั้นตอนอย่างไรบ้างก็ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเขาแล้ว"

ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมทนายความ กล่าวว่า หลังจากที่เราไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เราก็พบว่านายเป้ น่าจะมีการให้การเท็จ มีการแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เพราะเนื่องจากว่าสิ่งที่เขาแจ้งความเราก็มีพยานหลักฐานที่เป็นคลิปวีดีโอ ว่าเราไม่ได้กระทำความผิดตามที่เขามกล่าวหา ทุกขั้นตอนเรามีการบันทึกวีดีโอทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มภาระกิจ จนภาระกิจสำเร็จ เพราะฉนั้นเราเลยใช้สิทธิ์ของเราเพื่อมาแจ้งความ โดยวันนี้เรามาแจ้งความนายเป้ เพียงคนเดียวก่อน แต่หาพบภายหลังว่ามีใครที่ร่วมกระทำความผิดกับนายเป้ อีกเราก็จะมาแจ้งความเพิ่มเติมต่อไป