วันที่ 18 มิ.ย.66 เพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม-United Front of Thammasat and Demonstration ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...
แถลงการณ์ เรียกร้องให้สถานศึกษาเคารพสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกาย
สิทธิและเสรีภาพไม่เคยได้มาด้วยการร้องขอ แต่ได้มาจากการต่อสู้ของประชาชนผู้ตระหนักในอำนาจและอุดมการณ์ของตนเอง
สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองค์กรเครือข่ายกว่า 50 องค์กร ขอเเถลงการณ์เรียกร้องให้สถานศึกษาเคารพสิทธิ เเละ เสรีภาพเหนือร่างกาย
จากกรณีการเรียกร้องให้สถานศึกษาเคารพสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกาย โดยให้สามารถแต่งกาย ด้วยชุดไปรเวท หรือทําทรงผมใด ๆ เข้าเรียนในสถานศึกษาได้ ที่กําลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุให้เกิดกระแส ทางสังคมอย่างหลากหลายถึงความเหมาะสม จนไปถึงการตัดสินว่าการอารยะขัดขืนโดยไม่สวมเครื่องแบบ และการย้อมสีผมเป็นพฤติกรรมก้าวร้าวสุดโต่ง
สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองค์กรนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ทั้งสิ้นจํานวน 50 องค์กร ได้รับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอยึดมั่นในหลักการสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล สนับสนุนให้นักเรียน จากทุกโรงเรียน ตลอดจนนิสิตนักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัย สามารถเลือกเครื่องแต่งกายรวมไปถึงทรงผมเข้าเรียน ได้อย่างเสรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 28 วรรคแรก บัญญัติว่า บุคคลย่อมมีสิทธิ และเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อที่ 3 ความว่า บุคคลมีสิทธิ ในการดํารงชีวิตในเสรีธรรมและในความมั่นคงแห่งร่างกาย และไม่ควรมีกฎระเบียบ วินัย หรือจารีตใดอยู่เหนือสอง หลักการนี้
ดังนั้น สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และองค์กรนักเรียน นิสิตและนักศึกษา ทั้งสิ้นจํานวน 50 องค์กร ขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตลอดจน สถานศึกษาทุกแห่งแก้ไขกฎ ระเบียบ ข้อบังคับให้นักเรียน นิสิต และนักศึกษา โดยเปิดกว้างให้สามารถแต่งกาย ด้วยชุดไปรเวทเข้าเรียนในสถานศึกษา และเเก้ไขกฎระเบียบของสถานศึกษาให้ปราศจากการบังคับเกี่ยวกับ การทําผม อาทิ ความยาว ทรงผม หรือสีผม โดยอยู่บนหลักการของการเคารพสิทธิเสรีภาพในทุกมิติ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเเห่งการที่ไม่มีใครต้องถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ ให้เกิดพื้นที่แห่งการแสดงออกอย่างหลากหลาย และ สร้างความตระหนักรู้ถึงการเคารพอัตลักษณ์อันแตกต่างของผู้อื่นต่อไป อันเป็นสิ่งที่สถานศึกษาควรบ่มเพาะ มากกว่าการปลูกฝังวินัยและจารีตอย่างที่เป็นมา
ท้ายที่สุดนี้ การเรียกร้องให้สถานศึกษาเคารพสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกายของเราอยู่บนหลักการที่ว่าทุกคน ย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในร่างกายของตนเอง หากสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานเช่นนี้ยังไม่ได้รับการรับรอง จากสถานศึกษาซึ่งเป็นสถาบันสําคัญในการสร้างพลเมืองของประเทศ เราก็มิอาจวางใจว่าการละเมิดสิทธิเสรีภาพ อื่น ๆ จะไม่เกิดขึ้น และความเป็นประชาธิปไตยอันเป็นหลักการสําคัญที่สุดของประเทศนี้ก็จะไม่มั่นคง
ความอันตรายที่สุดของสังคมไทยเวลานี้ หาใช่รัฐที่สามานย์ฉ้อฉล
หากแต่เป็นคนบางพวกที่ติดกับดักตนเอง
วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2566