“นพดล” ตั้งคำถามว่า “ดอน”อยู่มาตั้งนานทำไมไม่ผลักดันประเด็นเมียนมาร์  โดยมารยาทควรรอรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งแก้ปัญหา

 

นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการที่มีข่าวว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ทำหนังสือเชิญประเทศในอาเซียนมาประชุมอย่างไม่เป็นทางการเรื่องเมียนมาร์ที่ไทย แต่อินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานอาเซียนไม่ตอบรับมาร่วมประชุมอ้างว่าอาเซียนกำลังดำเนินการอยู่นั้น เรื่องนี้ตนแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าประเด็นเมียนมาร์พึ่งมีการหารือในการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่หรือ นอกจากนั้น ไทยพึ่งมีการเลือกตั้ง และประชาชนเลือกพรรคฝ่ายค้านเดิมท่วมท้น รัฐบาลเดิมที่เป็นรัฐบาลรักษาการ  ควรรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการแก้ประเด็นเรื่องเมียนมาร์ ซึ่งรัฐบาลใหม่น่าจะมีท่าทีที่แตกต่างจากรัฐบาลนี้ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาผู้อพยพ ปัญหาสิทธิมนุษยชน ปัญหาชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน ปัญหากระบวนการประชาธิปไตยในเมียนมาร์ เป็นต้น ที่ผ่านมาการดำเนินงานด้านต่างประเทศของรัฐบาลนี้ถูกวิจารณ์ค่อนข้างมากว่าอ่อนแอ ไม่มีประสิทธิภาพและไม่ประสบความสำเร็จในการผลักดันการแก้ปัญหาเรื่องเมียนมาร์  ถ้าอยู่มาแปดปีแก้ไม่ได้ ตอนนี้เป็นรัฐบาลรักษาการคงไม่มีอำนาจต่อรองมากพอที่จะขับเคลื่อนการแก้ปัญหาได้ อีกทั้งตามข่าวอินโดนีเซียซึ่งเป็นประธานอาเซียนไม่มาร่วมประชุมด้วย โอกาสสำเร็จคงน้อย

นายนพดล กล่าวต่อว่ารัฐบาลใหม่ที่พรรคเพื่อไทยร่วมอยู่ด้วยมีความชอบธรรมที่มาจากการเลือกตั้ง และตัวผู้นำใหม่ จะสามารถกอบกู้เกียรติภูมิของไทยและสร้างโอกาสไทยในเวทีโลก เปิดตลาดใหม่ๆให้สินค้าไทย และจะให้ความสำคัญประเด็นเมียนมาร์ในลำดับต้นๆของงานด้านต่างประเทศ  ไทยและอาเซียนมีผลประโยชน์ร่วมกันในเมียนมาร์และการดำเนินการในกรอบอาเซียนจะมีพลังมากกว่าการดำเนินการของประเทศหนึ่งประเทศใด เราต้องผลักดันฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนต่อไป การเรียกร้องให้หยุดใช้ความรุนแรงในเมียนมาร์ การเจรจาสันติภาพระหว่างฝ่ายต่างๆ และการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมควรต้องเกิดขึ้น เพราะสันติภาพและประชาธิปไตยในเมียนมาร์นั้นสำคัญต่อการแก้ปัญาต่างๆ ที่กระทบต่อประเทศไทยและอาเซียน

“ปัญหาเมียนมาร์ยืดเยื้อมานาน ยากที่รัฐบาลรักษาการจะแก้ได้  เชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่ นโยบายใหม่ ผู้นำใหม่ จะทำให้สถานะประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาเมียนมาร์ประสบความสำเร็จได้”