เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. 66 ที่อาคารกิติยาคาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการหารือกันในเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ว่า พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะมีงานที่อยากผลักดัน ส่วนกระบวนการหารือระหว่างพรรค ต้องพูดคุยให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ได้รับรายงานผลการเจรจาว่าเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ประธานสภาฯ

เมื่อถามว่า จะมีปัญหาขัดแย้งกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่ามีปัญหา ทุกเรื่องต้องพูดคุยกัน ไม่มีทางเห็นตรงกัน 100% เพียงแต่จุดไหนที่สองฝ่ายต้องการ ต้องหาทางพูดคุยกันอย่างไรก็ตาม ทั้งสองพรรคเห็นเป้าหมายใหญ่ ที่จะเดินไปร่วมกัน จึงไม่กังวลเรื่องความผิดใจกัน

ส่วนแนวโน้มการรวมเสียง ส.ว. นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จะจบอย่างไร ต้องไปดูวันโหวต ยังมีความเป็นไปได้สูง ที่จะปิดสวิตช์ตามมาตรา 272 ได้สำเร็จ

"มาตรา 272 เป็นกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย และจะหมดอายุปีหน้าอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่รู้จะให้มาตรา 272 แผลงฤทธิ์ตอนนี้ไปทำไม คิดว่าเดินหน้าด้วยการเคารพการตัดสินใจของประชาชน จากวันที่ 14 พ.ค. ในทางออกที่ดีที่สุดเป็นการชี้แจงด้วยเหตุและผลหลายฝ่ายรับฟัง”

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จากการพูดคุย บางส่วนขอเวลาตัดสินใจ แต่เท่าที่ทราบ ก็มีสัญญาณบวกในเรื่องนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน

เมื่อถามถึงการติวเข้มสัมมนา ส.ส. ของพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จะมีการติวเข้ม แต่บอกตามตรงว่า ต้องขอให้เป็นเรื่องภายในของพรรค โดยจะมีการติวเข้ม ส.ส. ทั้งเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ ให้ส.ส.แต่ละท่าน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตั้งแต่วันแรกๆ เพราะพรรคมี ส.ส.ใหม่เยอะ

ในส่วนของการเดินทางไปรับรองสถานภาพ ส.ส. นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้บังคับว่าต้องไปพร้อมกันแต่อาจมีทั้งกิจกรรมที่ไปร่วมกัน และทั้งทยอยตามกันไป ส่วนวันเวลาใดนั้น จะมีการแจ้งอีกครั้ง หลังสรุปแล้ว ขณะที่วันเปิดประชุมสภาฯ นัดแรกเพื่อเลือกประธานสภาฯ นั้น ยังกำหนดวันที่ชัดเจนไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลมีความพร้อมอยากให้กระบวนการเร็วที่สุด เพื่อเข้าไปทำประโยชน์กับประชาชน ทุกอย่างมีต้นทุน มีค่าใช้จ่าย

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่อาจมีการรวมชื่อสมาชิกฯ เพื่อเสนอญัตติให้เลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไป เพราะนายพิธา ยังติดปัญหาเรื่องคดีความ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบ แต่คิดว่าจะเลื่อนจริงๆ หรือเลื่อนไปเพื่ออะไร ประชาชนไม่ได้อะไรจากเรื่องนั้น ใครก็ตามที่คิดเรื่องนี้ ขอให้มองประชาชนด้วย ว่าประชาชนกำลังรอคอยการพัฒนาเรื่องต่างๆ 

"สุดท้ายหากมีการดำเนินคดีกันจริงๆ อย่าไปคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ตำแหน่งนายกฯ ขั้วอำนาจเก่าจบไปแล้ว และข้อกล่าวหาใดๆ ไม่มีทางที่จะดำเนินการขัดขวางได้ รวมถึงเรื่องหุ้นสื่อไอทีวี" นายรังสิมันต์ กล่าว