เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของว่าที่ ส.ส. ทั้ง 151 คน ของพรรคก้าวไกล ที่ กกต. จะประกาศรับรองในเร็วๆ นี้ ว่า มีการซักซ้อมกัน เมื่อสภาฯ เปิดจะได้ใช้กลไกสภาฯ แก้ปัญหา ของพี่น้องประชาชนได้เลย ตามนโยบายที่พรรคได้ประกาศไว้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านบริหารและนิติบัญญัติ
และในส่วนของแนวทางในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2567 นายวิโรจน์ กล่าวว่า คิดว่าต้องพูดคุยกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องที่ต้องหารือร่วมกันอยู่แล้ว
นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงกรณี ผอ.สำนักพระพุทธศาสนากล่าวหาตนว่าไม่หนุนศาสนา ด้วยว่า กรณีนี้ผอ.สำนักพุทธบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ สังคมก็ฟังคำตอบแล้วพิจารณาเอา แต่อย่างไรเรื่องนี้ ขอยืนยันว่า ในเรื่องทุจริตเงินทอนวัดก็ดี ข้อสงสัยต่างๆ หรือความไม่ใว้วางใจจากภาคประชาชน โดยเฉพาะชาวพุทธที่มีต่อสำนักงานพระพุทธศาสนา สำนักพุทธต้องตระหนักดีว่าองค์กรตัวเองก็ถูกสงสัยจากภาคประชาชน และที่สำคัญเงินทอนวัดแต่ละครั้ง เรารู้สึกว่าข้าราชการสำนักพุทธ มีข้าราชการระดับสูงถึง 2 รุ่น 2 คนที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูล และอีกคนอยู่ระหว่างการหนีคดีด้วย และมีข้าราชการอีกหลายคนถูก ป.ป.ช. ชี้มูลและถูกศาลพิพากษา
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ มองว่าคนในองค์กรต้องตระหนักตัวเอง แต่ตนเชื่อมั่นการรักษาการผอ.สำนักพุทธฯคนปัจจุบัน เพราะมีความตั้งใจจริงใจแก้ไขการฟื้นภาพลักษณ์สำนักพุทธขึ้นมาใหม่ ซึ่งตนก็ให้กำลังใจ แต่อย่างไรก็ตาม ทำไมประชาชนถึงให้ความสำคัญกับข่าวการทุจริตหรือปัญหาของสำนักพุทธมาก เพราะมีพระผู้ใหญ่ที่ท่านปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ มีจริยธรรมที่ดี ต้องมีมลทินไปด้วย จนกว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมกับพระสงฆ์เหล่านั้น ปรากฏว่าความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว แต่คนที่กระทำและมีส่วนเกี่ยวข้องคือสำนักพุทธที่ทำให้เกิดขึ้น คือการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา แต่ตนเองเป็นสนิมเนื้อในตน ก่อนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น ให้กลับมาดูวัตถุประสงค์แรกเริ่มการเกิดต่อองค์กรท่านและทำให้ท่านบรรลุวัตถุประสงค์ และบรรลุความน่าเชื่อถือที่ประชาชนไว้วางใจได้จะดีกว่า และตนเชื่อว่าอุบาสกอุบาสิกา ชาวพุทธทั่วประเทศยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว