เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 66 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 6-7 ชั้น 5 ที่โรงแรมเซ็นทารา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ สมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ได้กำหนดจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 - 2565 และเสวนาวิชาการในหัวข้อ "ทิศทางการเมืองไทยภายหลังการเลือกตั้ง ปี 2566" โดยมี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. และรองเลขาธิการกกต. เข้าร่วม

ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิกสมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง(พตส.) รุ่นที่ 1 ถึง รุ่นที่ 13 และผู้ที่สนใจ ได้รับฟังแนวความคิดจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเมืองการปกครองพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมืองไทย ภายหลังการเลือกตั้งปี 2566

ในการนี้ นายอิทธิพร ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ได้ให้เกียรติมอบโล่รางวัลเอกสารวิชาการรางวัลดีเด่นและรางวัลชมเชย ประเภทกลุ่ม แก่นักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมือง และการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 11 และรุ่นที่ 12 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนเผยแพร่การดำเนินกิจกรรมของสถาบันๆ โดยสนับสนุนการศึกษาค้นคว้าวิจัย แลกเปลี่ยนและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการเมืองและการเลือกตั้ง อีกทั้ง ยังมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่อีกด้วย

และภายหลังการร่วมงาน นายอิทธิพรได้ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. ว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสำนักงานกกต.ได้มีการเสนอข้อมูลการประกาศรับรองผลส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่เห็นว่าการรับรองผลจะต้องมีข้อมูลประกอบมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นกระบวนการพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีการประชุมต่อในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประกาศรับรองผลส.สแบบบัญชีรายชื่อด้วย โดยยืนยันว่าการประกาศรับรองผลจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน 

ทั้งนี้ จะช้าหรือเร็วแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่ได้นั้นมาจากผู้อำนวยการกกต.จังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ประกอบด้วยข้อมูลคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามว่ามีว่าที่ส.ส.ท่านใดเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ ถ้าสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 95 แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถประกาศให้ได้ครบร้อยละ 100 ทั้งนี้ยืนยันว่าจะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเอกสารในที่ประชุมหลุด และพบว่ามีจำนวนส.ส. 71 คน ที่พบเรื่องร้องเรียน นายอิทธิพร กล่าวว่าเป็นเอกสารที่สำนักงานเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมกกต. เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อมูลหลัก และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ที่จะไม่ประกาศรับรองผลให้กับ 71 ส.สหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อดูข้อมูลคำร้องจะสามารถพูดได้ว่าสำนวนที่ร้องเป็นประเภทใด ถ้าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่าจะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปก่อน

เมื่อถามว่า หากจะต้องพิจารณาใบเหลืองหรือใบส้มจะมีระยะเวลาดำเนินการอย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า หากมีใบเหลืองหรือใบส้มจะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรองผล ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้นจะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ซึ่งข้อมูลมาจากกกต.จังหวัด หรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสนอผ่านเลขาธิการกกต.เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมกกต. ซึ่งไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป ยืนยันว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบ 60 วัน หากกกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถที่จะทำได้ เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องย่นระยะเวลาเพื่อดำเนินการบ้างอย่าง ซึ่งขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้งกกต.ยังไม่ได้มีการเริ่มพิจารณา 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการโดยกกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะดำเนินการโดยเป็นไปตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน โดยกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน ย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่างๆอย่างเคร่งครัด ส่วนจะต้องแยกระหว่างการประกาศรับรองผลกับการสืบสวนไต่สวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวเพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญคือการเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่

ส่วนกรณีบริษัทไอทีวี ล่าสุดออกแถลงการณ์ เป็นเอกสารคำชี้แจงโดยมีทั้งเอกสารลงบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงเอกสารที่ยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้จัดการมรดกจะมีผลต่อการพิจารณาของกกต.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตามอำนาจการตรวจสอบของคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจะมีการเรียกพยานหรือเอกสารได้ โดยกกต.จะไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงาน โดยขั้นตอนของคณะกรรมการฯมีหน้าที่ให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ดังนั้นเรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด

เมื่อถามอีกว่า มีการเรียกร้องให้กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีนายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หรือการนำเสนอของใคร ทุกอย่างกกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุม เมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามาอาจจะไม่เหมาะสมถ้าหากพูดเรื่องนี้ไปก่อน

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะต้องให้มีผู้ร้องเรียนยิ่งเรื่องเข้ามาก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมายไม่จำเป็น

เมื่อถามเพิ่มเติมว่า สามารถนำข้อมูลในชั้นของคณะกรรมการสืบสวนมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 82 ได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึงกกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอหรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถตัดสินได้เลย

เมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันปัญหา ประธานกกต. กล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวน ก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม