รายงานพิเศษ/ทีมข่าวภูมิภาค

เลือกตั้งนายกเมืองพัทยายังไม่จบง่ายๆ แม้ กกต.ตีตก  แต่ศาลปกครองรับเรื่องหลังผู้สมัครบางรายยื่นร้องกรณีมีผู้สมัคร 2 ราย ใช้งบประมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดในการจัดทำป้ายโฆษณาหาเสียง

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 โดยก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา ได้ยื่นคำร้องขอต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้ทำการตรวจสอบกรณีของผู้สมัครนายกเมืองพัทยาจำนวน 2 ราย จากกรณีที่มีการติดตั้งป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์หาเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้

ซึ่งกรณีนี้ประธานกรรม การการเลือกตั้งประจำเมืองพัทยา ได้ออกประกาศเรื่องจำนวนแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งที่ระบุไว้ว่าจำนวนแผ่นป้ายโฆษณาเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งผู้สมัครนายกเมืองพัทยาที่นำมาติดประชาสัมพันธ์นั้น จะต้องมีจำนวนของป้ายไม่เกิน 5 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้ง โดยเมืองพัทยาได้กำหนดให้มีหน่วยเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาทั้งสิ้นจำนวน 146  หน่วยเลือกตั้ง ดังนั้นผู้สมัครนายกเมืองพัทยาแต่ละรายจึงจะสามารถติดตั้งป้ายโฆษณาหาเสียงได้รายละไม่เกิน 730 ป้ายตามข้อกำหนด

แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์หาเสียงของผู้สมัครนายกเมืองพัทยาจำนวน 2 รายมีจำนวนป้ายโฆษณาเกินกว่าที่กำหนดไว้เป็นอย่างมาก โดยรายแรกมีจำนวนป้ายมากถึง 1,757 ป้าย ส่วนกรณีผู้สมัครอีกรายมีจำนวนป้ายมากถึง 1,162 แผ่น ซึ่งทั้ง 2 รายถือว่ากระทำผิดตามคำสั่ง กกต. พร้อมกันนี้ได้จัดทำไฟล์วีดิทัศน์ที่แสดงให้เห็นป้ายทุกป้ายและเอกสารสรุปการติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัครทั้ง 2 ราย ส่งให้ กกต.ตรวจสอบไว้ด้วย จนมาภายหลังเมื่อการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาแล้วเสร็จ ก็ยังได้มีหนังสือคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาตามความผิดข้างต้น แต่ กกต.ได้มีหนังสือแจ้งผู้ร้องว่าได้พิจารณาแล้วมีมติสั่งไม่รับคำร้องไว้ดำเนินการแต่อย่างใด

ด้วยเหตุนี้จึงได้นำกรณีดังกล่าวยื่นฟ้อง กกต. ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้รับคำร้องเรื่องนี้ไว้ทำการตรวจสอบความผิดในกรณีที่ทั้ง 2 ผู้สมัครนายกเมืองพัทยากระทำไว้เพื่อพิจารณาดำเนินการและขอให้รับ คำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ไว้พิจารณาดำเนินการด้วย ซึ่งศาลปกครองกลางก็ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ว่าจะรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นการเร่งด่วน

กรณีนี้ประชาชนชาวเมืองพัทยาคงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าผลสรุปของการพิจารณาในชั้นศาลจะเป็นอย่างไร แม้ก่อนหน้านี้ผู้ถูกร้องทั้ง 2 ราย จะระบุว่าป้ายหาเสียงที่มีจำนวนเกินกว่าที่ทาง กกต.กำหนดนั้นเป็นป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ทางผู้สมัครไม่ได้จัดทำ แต่เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยาหรือในทีมงานจัดทำขึ้นเอง เพียงแต่มีภาพของผู้สมัครนายกเมืองพัทยาทั้งเบอร์และรายชื่ออยู่ในแผ่นป้าย ซึ่งเรื่องนี้จึงถือว่าเข้าข่ายความผิด

โดยเรื่องนี้ผู้ร้องเคยได้นำคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 6 คดีหมายเลขแดงที่ 1013 / 2557 กรณีจัดทำป้ายหาเสียงเลือกตั้งเกินจำนวนที่กำหนด ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดหนึ่งปีและให้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่และตามมาตรา 132 ของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้อง ถิ่นพ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้ว่าผู้ใดปิดประกาศหรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง โดยไม่เป็นไปตาม ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือก ตั้งมอบหมายกำหนดตามมาตรา 71 ต้องระวังโทษจำ คุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจากมองภาพของความเป็นจริงแล้วพบว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายความผิดตามที่กฎหมายกำหนด แต่คงจะต้องรอให้ศาลปกครองพิจารณาและพิพากษาอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้วนานเกือบ 2 ปี แต่หากพบว่ามีความผิดก็ต้องรับโทษตามกฎหมายและกำหนดให้มีการเลือกตั้งขึ้นใหม่ จึงถือว่าการเลือกตั้งหนนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ