ตลาดอสังหาฯ หัวเมืองใหญ่คึก รับท่องเที่ยวฟื้น 4 บริษัทจดทะเบียนแห่เปิดโครงการ มูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบันภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ หลังโควิดคลี่คลายและเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนไหลเข้าประเทศต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทำให้ตลาดอสังหาฯ หัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมีความคึกคักมากขึ้น อาทิ เชียงใหม่,ภูเก็ต,พัทยา หรือหัวหิน เป็นต้น ขณะเดียวกันการเปิดประเทศของจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลชัดเจนต่อกลุ่มอสังหาฯ ของไทย เพราะชาวจีนครองอันดับ 1 สัญชาติที่รับโอนคอนโดมีเนียมสูงสุดตลอด 5 ปีหลัง (2561-65) นอกจากนี้แนวโน้มการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวจีนยังมีต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดจองโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปีก่อนที่อยู่ระดับเพียง 40%
ทั้งนี้เมื่อสำรวจการเปิดโครงการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่อยู่ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4 แห่ง พบว่า มีการเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัดกันต่อเนื่อง มูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
ORI รุกภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท
บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ล่าสุด ส่งบริษัทย่อย ออรริจิ้น อีอีซี บรรลุข้อตกลงร่วมทุนกับ บริษัท ภูเก็ตวิลล่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง (The Origin Kathu-Patong) บนที่ดินขนาด 10 ไร่ ใกล้หาดป่าตอง และสามารถเดินทางเข้าใจกลางเมืองภูเก็ตเพียง 5 นาที มูลค่าโครงการรวม 2,100 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มเปิดขายไตรมาส 2/66
โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การขยายตัวในตลาดต่างจังหวัด ผ่านการจับมือกับพันธมิตรในท้องที่เพื่อร่วมพัฒนาโครงการในหัวเมืองต่างๆ เสริมความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจของกลุ่มออริจิ้น ซึ่งมองว่าภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย มีแนวโน้มการเติบโตชัดเจน ซึ่งภูเก็ตมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อลงทุน และช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ อาทิ โครงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 3 ที่คาดว่าจะช่วย รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ล้านคนต่อปี
"อรสิริน โฮลดิ้ง (ORN)" เตรียมผุด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 3,225 ล้านบาท
บมจ.อรสิริน โฮลดิ้ง (ORN) บจ.น้องใหม่ที่อยู่ระหว่างยื่นไฟลิ่งเตรียมขายไอพีโอ ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ของจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมเปิดโครงการใหม่ปีนี้ทั้งแนวราบ-แนวสูงรวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,225 ล้านบาท ขณะเดียวกันภายในปี 67 เตรียมพัฒนาโครงการคุณภาพในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มเติม มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,940 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขาย ณ สิ้นปี 65 รวม 18 โครงการ มูลค่าขายรวม 15,505 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 11 โครงการ แนวสูง 7 โครงการ ภายใต้แบรนด์สินค้าได้แก่ THE ESCAPE , HABITAT , BELIVE , ORNSIRIN , ORNSIRIN VILLE , URBAN MYX , THE ASTRA , ARISE และ THE NEXT สำหรับยอดขายรอโอน ปัจจุบัน ณ 31 มีนาคม 66 อยู่ที่ 337.65 ล้านบาท คาดว่าจะโอนได้ภายใน 31 ธันวาคม 66 มูลค่า 337.65 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาฯ จ.เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น มีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา จากหลายปัจจัย เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ,การคลี่คลายของโควิด-19 และการกลับมาของกำลังซื้อต่างชาติ ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่เคยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มคนในพื้นที่ และกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แต่ต้องการมีที่พักอาศัยในจังหวัดเชียงใหม่
PROUD ลุย 2 โปรเจคหัวหิน มูลค่ารวม 6,091 ลบ.
ด้าน บมจ.พราว เรียล เอสเตท (PROUD) มี 2 โครงการที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่ารวม 6,091 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเวหา หัวหิน มูลค่า 2,290 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างเริ่มก่อสร้าง เปิดขายพรีเซลไม่ช่วงเดือนมีนาคม 2566 มีกระแสตอบรับที่ดี และโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน มูลค่าโครงการรวม 3,801 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จ รอขายปิดโครงการ
ขณะที่ประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัว ผลักดันให้กำลังซื้อของคนไทยรวมถึงชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมของธุรกิจอสังหารริมทรัพย์ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงเตรียมขยายโครงการใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาโครงการภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ More than just living พัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ครบครัน เหนือระดับ
PPS เดินหน้าขายลักซ์ชัวรี่วิลล่าภูเก็ต มูลค่า 2,000 ล้านบาท
บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) อยู่ระหว่างพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท "ลักซ์ชัวรี่วิลล่า" ในที่ดินแหลมยามู จ.ภูเก็ต (Headland Cape Yamu) ซึ่งโครงการจะมีวิลล่าทั้งหมด 8 หลัง ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 หลัง โดยมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างวิลล่าภายใต้แบรนด์ LVMH และปรับราคาเริ่มต้นที่ 350 ล้านบาท มูลค่าขายเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% โดยตั้งเป้าปิดการขายปีนี้อย่างน้อย 1 หลัง
ทั้งนี้ ประเมินว่าปี 66 โครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งทำเลทองที่ต้องจับตามอง โดยครึ่งปีหลังการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ และนักลงทุนต่างชาติจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างรายได้อย่างมหาศาล รวมทั้งหนุนเศรษฐกิจให้เกาะไข่มุกแห่งอันดามันนี้ได้อีกจำนวนมาก
ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวปัจจุบันปรับตัวดีขึ้น ทิศทางอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ตขยายตัวเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ ที่มีมูลค่า 50-200 ล้านบาท ตลาดอสังหาริมทรัพย์ จ.ภูเก็ต กลับมาคึกคักมากขึ้นอีกครั้งหลังเปิดประเทศต้นปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินพุ่งถึง 20-30% ส่งผลให้ภาคท่องเที่ยว-โรงแรมกลับมาฟื้นตัวแรงจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ