วันที่ 15 มิ.ย.66 ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และ สภ.เมืองน่าน กำลังและติดตามล่าตัวคนร้ายเป็นชาย รูปร่างสูงใส่หน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก็ปปิดบังใบหน้า หลังก่อเหตุใช้มีดสปาต้า จี้ชิงทรัพย์ แม่เฒ่าวัย 78 ปี  เจ้าของร้านขขายของชำ ในหมู่บ้านท่าลี่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน  พร้อมกับใช้ผ้าพันคออุดปาก  และสายสายไฟพัดลมมัดมือไพล่หลัง ก่อนควบ รถจยย.หนีหาย 

โดยนางวิไล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 78 ปี เจ้าของร้านชำดังกล่าว อยู่ในอาการตื่นตกใจ ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ระหว่างที่ตนกำลังจัดเรียงของในตู้เย็น ได้มีคนร้ายใส่เสื้อแขนยาวสีดำเดินเข้ามาทางหลังบ้าน จากนั้นใช้มีดสปาต้า ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร จี้บริเวนตรงเอว แล้วบังคับให้ขึ้นไปบริเวณข้างบนชั้นสองของบ้าน แล้วตัดสายพัดลมนำมามัดมือไพล่หลัง และใช้ผ้าพันคอที่อยู่ในห้องมัดปาก จากนั้นรื้อค้นเอาทรัพย์สิน แต่ไม่เจออะไรทั่งที่กระเป๋าใส่เงินหลายหมื่นบาทวางอยู่แต่คนร้ายมองไม่เห็น จากนั้นคนร้ายได้ลงมารื้อค้นบริเวนลิ้นชักโต๊ะขายของ ได้เงินทอนที่อยู่ในลิ้นชักประมาณ 400-1,000 บาท แล้ววิ่งออกทางหน้าร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่จอดไว้ตรงข้างร้านและหลบหนีไป จึงวิ่งออกมาตะโกนขอความช่วยเหลือทั้งที่มีผ้ามัดปากอยู่ พร้อมกับจำรูปพรรณสันฐานคนร้ายไปด้วย จนข้างบ้านได้ยินและออกมาช่วยแก้มัด และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังกล่าว

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูล รูปพรรณสันฐานคนร้าย พร้อมกับทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีน้ำตาลขาว ทะเบียน กยน 20 น่าน ขับรถหนีไปทางหมู่บ้านเอื้ออาทร ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน กระทั่งติดตามพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในบ้านในหมู่บ้านเอื้ออาทร ทราบชื่อคนร้ายคือ นายประกอบกุล (ขอสงวนนามสกุล) หรือนายแบงค์ หรือเพื่อนๆ เรียกว่า นายกอบ มีอาชีพขับรถตู้นำเที่ยว เคยมีภรรยาและแยกทางกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน  

โดยญาตินายแบงค์  คนร้าย ยืนยันว่า คนในภาพกล้องวงจรปิด เป็นหลานของตนเอง พร้อมกับเล่าว่า นายแบงค์เคยเล่าให้ทางญาติฟังว่า ระหว่างขับรถนำเที่ยวไป สปป.ลาว ได้ไปหลงรักสาวลาวคนหนึ่งสัญญาว่าจะไปขอสาวลาวเพื่อแต่งงานกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะหาเงินโดยวิธีนี้ 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ติดตามและทราบว่า นายแบงค์ คนร้าย ได้หนีขึ้นโดยสารน่าน-เชียงใหม่ และได้ลงรถที่สถานีขนส่งจังหวัดแพร่ เพื่อต่อรถไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัว

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวหลังลงพื้นที่ติดตามตัวนายแบงค์ ผู้ก่อเหตุว่า พฤติการของคนร้ายเบื่องต้นคนร้ายได้มาดูลาดเลาที่ร้านขายของชำ จากที่ดูลาดเลาเสร็จแล้วได้เข้ามาใช้อาวุธมีดจี้ จากนั้นได้มัดมือ และใช้ผ้ามัดปาก พร้อมทั้งขู่เอาเงิน ได้เงินไป 500-1,000 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และกำลังดำเนินการติดตามจับกุมตัว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ ต่อไป