เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  ระบุว่า

“ซุกหุ้น ของจริง

พิธาไม่ได้ “ซุกหุ้น” แต่ที่ซุกเป็นกรณี “ศักดิ์สยาม” 

ศาลรัฐธรรมนูญกำลังขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องส่งเอกสารเพิ่มเติม

ผมในฐานะประชาชนจึงขออนุญาตศาลรัฐธรรมนูญชี้เบาะแสเพื่อเป็นประโยชน์ ดังนี้

1. ขอให้ศาลเรียกหลักฐานการค้ำประกันการทำงาน ที่ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ได้รับงานจากกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท

ว่า หจก.บุรีเจริญฯ นำทรัพย์สินของใครมาวางค้ำประกันในแต่ละงาน?

มีทรัพย์สินของนายศักดิ์สยามหรือไม่?

เพราะหากเป็นทรัพย์สินของนายศักดิ์สยาม แปลว่าบริษัทนี้เป็นของนายศักดิ์สยาม ไม่ใช่ของนายศุภวัฒน์ที่เป็นนอมินี

2. ขอให้ศาลเรียกเอกสารจากธนาคารธนชาติ หรือธนาคารที่เกี่ยวข้อง ว่าหลังจากที่นายศักดิ์สยามโอนหุ้นให้กับนายศุภวัฒน์ จำนวน 119 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 แล้ว

ใครเป็นผู้มีอำนาจเบิกถอนเงินจากธนาคารในธุรกรรมที่เกี่ยวกับ หจก.บุรีเจริญฯ?

หากยังเป็นนายเอกราช ชิดชอบ หรือลูกน้อง หรือเครือญาติของนายศักดิ์สยามทำธุรกรรมอยู่ แปลว่านายศุภวัฒน์เป็นเพียงนอมินีของนายศักดิ์สยาม

หลักฐานต้องแน่น เอาให้ชัด

อย่างเรื่อง “พิธา” ไม่ได้เรียกว่าซุกหุ้นครับ นับวันหลักฐานยิ่งชัดว่าเป็น “แผนล้มกระดาน”

ต้องเรื่องของศักดิ์สยามนี่สิ ถึงจะสนุก เพราะสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน

ข่าวแว่วมาว่า กำลังวิ่งกันขาขวิด

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด”