เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ “คุณปลื้ม” พิธีกร และผู้ดำเนินรายการข่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก M.L. Nattakorn Devakula กรณี “น้องหยก” ว่า 1.ในด้านสิทธิเสรีภาพ สิทธิเสรีภาพก็ยังอยู่ใต้กฏหมายคุณมีสิทธิเสรีภาพ ภายใต้ที่กฎหมายกำหนด นี่เรียกว่าสังคมที่มีกฎระเบียบ ในกรณีนี้สถาบันการศึกษาก็มีกฎของสถาบัน อยู่ในโรงเรียนก็ต้องมีกฎระเบียบของสถานการศึกษานั้นๆ
2.เราจะสอนให้เด็กรุ่นต่อไปไม่เคารพกฎไปเรื่อยๆ หรือ? อย่างนี้ถ้าอนาคตมีคนไม่พอใจจะเปลี่ยนกฎอะไรก็ให้ไม่ต้องปฏิบัติตามกฎนั้นเลยง่ายๆ ทั้งที่โดยส่วนรวมผู้อื่นก็ยังยินดีปฏิบัติตามกฎนั้นอยู่? มันแฟร์ต่อผู้อื่นซึ่งร่วมศึกษาในสถาบันนั้นนั้นไหม?
คนส่วนใหญ่มีเหตุผลและเคารพกติกา โรงเรียนไม่ต้องกังวลกับนักการเมืองหรือสื่อหรือพิธีกรหรือเอ็นจีโอที่เก็บแต้มเข้าตนเองด้วยการให้ท้ายเด็กหรอกครับ ทำในสิ่งที่เหมาะสมแล้วสังคมจะเห็นเองว่าใครผิดใครถูก การเรียนเป็นโอกาสที่พิเศษ เป็น Privilege ของเด็กที่ได้เรียนในโรงเรียนเอกชนที่มีคุณภาพที่มีชื่อเสียง นักเรียนผู้นั้นควรตระหนักถึงสิทธิพิเศษตรงนี้ การทำสีผมหรือแต่งตัวอะไรยังไงก็ได้ไม่ใช่สิทธิ ไม่เคยเป็นสิทธิ มันแค่เป็นสิ่งที่คุณอยากทำตามอำเภอใจเท่านั้น รณรงค์ให้เด็กปฏิบัติตามกฎระเบียบสถานการศึกษาจะดีกว่า ไม่ใช่วันวันเอาแต่ให้ท้ายนักเรียนเพื่อให้ตนเองดูเหมือนเป็นคนที่เชียร์เรื่องสิทธิเสรีภาพ
โรงเรียนจำนวนมากในโลก ถ้าเป็นเอกชน ต้องจ่ายเงิน ก็มียูนิฟอร์ม และให้ความสำคัญกับการปลูกฝังค่านิยมการเคารพกติกาตั้งแต่เล็กๆ เลย เน้นความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นมาก ไม่ใช่เอาแต่ให้ท่องเรื่องสิทธิของตนเองตามที่ตอนนี้มีการเชื่อกัน เรียนโรงเรียนมัธยมประจำในยุโรป/สหรัฐฯเขามีกฎแม้แต่เรื่องกรอบเวลาในการใช้อุปกรณ์สื่อสารหรือเรื่องอื่นๆ โซนเอเชียก็เช่นกัน การปฏิบัติตามกฎที่ไม่ได้เป็นภัยต่อสวัสดิภาพของนักเรียนคือการฝึกการควบคุมตนเอง เป็นทักษะชีวิตที่สำคัญมาก อีกครั้ง: ถ้ารักรุ่นต่อไปจริงๆ ไม่ใช่รักเพื่อให้ตนเองดูเหมือนว่าเป็นฮีโร่ของฝ่ายประชาธิปไตยก็ควรที่จะสอนให้เขาปฏิบัติตามกฎ ส่วนใครอยากให้ท้ายเด็กไปเรื่อยๆ ก็เชิญ..แล้ววันหนึ่งก็จะเข้าใจเองว่าผลต่อตัวเด็กผู้นั้นและผลต่อสังคมจะเป็นเช่นไร