เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 14 มิ.ย. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ออกมาโต้แย้งกรณีที่ระบุว่า ผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. จะไม่สามารถนำชื่อนั่นไปโหวตนายกฯได้ว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. สื่อตั้งคำถามหลายคำถาม โดยเริ่มต้นถามจากการถูกตั้งข้อหาตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 และมีการขยับไปถามเกี่ยวกับการฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 หลักง่ายๆที่คนมาโต้แย้ง ตนตามข่าวเรื่องคุณสมบัตินายกฯนั้น ถือว่าถูกต้องแล้ว เพราะประเด็นที่ตนพูดหมายถึงการหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.เป็นคนละประเด็นกัน และหากฟ้องตามมาตรา 151 เป็นการฟ้องไปยังศาลอาญา ซึ่งจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้

โดยศาลที่จะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้คือศาลรัฐธรรมนูญ และสื่อถามตนว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่จะเริ่มตั้งแต่เมื่อใด คำตอบคือ เริ่มตั้งแต่ถวายสัตย์ปฏิญาณ ถึงจะเข้าชื่อยื่นตรวจสอบใดๆได้ แต่ถ้าถามว่านายพิธา ปฏิญาณตนได้หรือไม่ต้องตอบว่าได้ในฐานะ ส.ส. และถ้ามีการไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องไปดูว่าศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อะไร หากเป็นหน้าที่ส.ส.ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. แต่การเป็นว่าที่นายกฯ ศาลไม่ได้สั่ง เมื่อไม่ได้สั่งก็ดำเนินการโหวตนายกฯไปได้ ตนไม่อยากชี้ช่อง

“เว้นแต่ในคำร้อง ซึ่งผู้ร้อง ร้องประเด็นอะไรยืดยาวมากกว่านี้ แล้วศาลสั่งให้หยุดทั้งหมด ถ้าหยุดทั้งหมดก็ไปเสนอไม่ได้ เพราะเสนอไปแล้วปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จะนำความไปกราบบังคมทูลฯ ว่าอย่างไร และเมื่อทรงแต่งตั้งแล้ว ตั้งรัฐมนตรีก็ไม่ได้ เพราะการตั้งรัฐมนตรีผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการคือนายกฯ ซึ่งกระบวนการจะต้องเกิดขึ้นตามลำดับแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าศาลจะสั่งอย่างไรในเวลานั้น เหมือนสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ท่านเป็นรมว.กลาโหมก็ปฏิบัติหน้าที่รมว.กลาโหมได้” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า มีข้อกฎหมายสั่งให้แคนดิเดตนายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี แต่ตนไม่รู้ว่าคำร้องว่าอย่างไร ตนไปพูดเช่นนั้นเดียวหาว่าชี้ช่องให้ร้องอีก ก็ขอไม่ตอบในส่วนนี้ เพราะเราไม่เคยมีตัวอย่าง ศาลอาจจะสั่งหรือไม่สั่งก็ได้ การสั่งโดยมาตรา 82 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งส.ส. ส.ว. รัฐมนตรี

เมื่อถามย้ำว่า ผลที่จะออกมาเป็นอย่างไรต้องขึ้นกับคำร้องใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ใช่ อยู่ที่คำร้องและคำสั่งของศาลด้วย เมื่อถามว่า หากศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. ระหว่างที่เลือกนายกฯยังไม่เสร็จ ปรากฎว่าศาลสั่งให้พ้นสภาพการเป็นส.ส. ต้องดูไปถึงคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯด้วยหรือไม่ เพราะคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯเหมือนกับ ส.ส. นายวิษณุ พยักหน้าพร้อมบอกว่า ต้องไปดูว่าคำร้อง ร้องว่าอย่างไร คำสั่งศาลว่าอย่างไร เราจะบอกว่าศาลไม่มีอำนาจสั่งก็ไม่ได้ ตนไม่แน่ใจ ศาลอาจจะบอกว่ามีก็ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยสั่งแปลกๆหลายครั้งแล้ว

เมื่อถามว่า กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องเรื่องคุณสมบัติส.ส.ประเด็นเดียวถึงโหวตนายกฯได้ แต่นายพิธา ถูกร้องทั้งการเป็น ส.ส. แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรค รวมถึงสถานะส.ส.ปี 62 นายวิษณุ ตอบว่า กรณีนายพิธามีอันนี้พ่วงมาด้วยถึงได้เป็นปัญหา ซึ่งเราไม่มีตัวอย่างมาก่อน จึงเอามาเปรียบเทียบไม่ได้

เมื่อถามอีกว่า ต้องรอให้มีตำแหน่งนายกฯ ก่อนถึงร้องได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ตอบคำถามนี้เพราะเดี๋ยวจะเป็นการชี้ช่อง

เมื่อถามว่า สุดท้ายประธานสภาฯจะมีบทบาทที่สุดใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานสภาฯมีบทบาทสำคัญที่สุดที่จะควบคุมเรื่องนี้ เพราะประธานสภาจะเป็นผู้กราบบังคมทูลฯแต่งตั้งนายกฯ เพื่อให้บริหารราชการแผ่นดิน ขอย้ำว่า เริ่มต้นมีการเสนอชื่อ ประธานสภาฯ จะรับชื่อนั่นหรือไม่ ถ้าไม่รู้ไม่รับเข้ามา ก็ต้องมีการโหวตแข่ง หากไม่ได้ก็ตกไป ประธานไม่ต้องรับผิดชอบ แต่หากได้ขึ้นมาประธานจะคิดหนัก 

เมื่อถามว่า กรณีคนที่ร่วมลงมติรายชื่อที่มีปัญหาจะต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง หมายถึงส.ส. ส.ว. แม้ไม่มีความรับผิดชอบทางกฎหมาย แต่มีความรับผิดชอบทางการเมือง

เมื่อถามว่า แสดงว่าบทบาทประธานสภาฯ หากเห็นอะไรควรไม่ควร ก็ควรจัดการก่อนใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่ต้องรับผิดชอบ เหมือนการแต่งตั้งข้าราชการทุกวันนี้ จะมาจากกระทรวงไหนก็ช่าง แต่นายกฯเป็นคนเซ็น นายกฯก็ต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกรณีกระแสข่าวคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะฟ้องนายพิธา ตามมาตรา 151 คิดว่าต้องมีความผิดเป็นสารตั้งต้นที่ยังไม่ปรากฎเป็นข่าวออกมาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าตั้งต้นหรือไม่ตั้งต้น แต่กกต.บอกจะฟ้อง 151

เมื่อถามว่าการจะฟ้อง 151 ได้ต้องมีเหตุและการกระทำก่อน นายวิษณุ กล่าวว่าจะให้ตนไปวิจารณ์อะไรเขา 

เมื่อถามว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ออกมาแย้งว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 82 ไม่เปิดช่องให้ส.ว. ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส. นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ ใช้มาตรา 82 รวมถึงอนาคตหากมีรัฐมนตรีและนายกฯ ส.ว.ก็เข้าชื่อ 1 ใน 10 ตรวจสอบได้ เพราะมาตรา 82 ใช้ได้ตลอด ขอให้เข้าชื่อให้ได้ 1 ใน 10 ก็แล้วกัน เรื่องนี้ถือเป็นสิทธิในการร้องเพราะต้องไปอีกหลายด่าน

เมื่อถามว่า กรณีรัฐสภาเดินหน้าโหวตนายกฯยังไม่ได้ ก็ต้องโหวตกันไปเรื่อยๆใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ถูกแล้ว แต่สื่อจะถามให้ตนชี้ช่องว่ารัฐบาลอยู่ยาว ก็ทำให้มันเสร็จๆเร็วๆซิ วันนี้ไม่เสร็จพรุ่งนี้ก็เลือก หากยังไม่เสร็จก็เลือกวันมะรืน