รายงานพิเศษ/จางเหล่ย และเฉา ชิ่ง
ณ บริเวณด้านตะวันตกของยอดเขาซานเซียนเฟิง เขตเทือกเขาฉินหลิ่ง หากเราเข้าไปในพื้นที่เราอาจจะพบกับแพนด้ายักษ์ตัวหนึ่งโดยบังเอิญได้ หรือหากเราสวมเสื้อลายพราง และเรียกคำว่า “เมาเมา เมาเมา” ด้วยเสียงเบา ๆ ก็สามารถเข้าใกล้มันได้ แพนด้ายักษ์ที่ว่านี้ก็คือ“สี่เยี่ยว์”
“สี่เยี่ยว์” เป็นแพนด้าป่าตัวผู้ อาศัยอยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติระดับชาติ แพนด้าตัวนี้พบกับมนุษย์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2007 ช่วง 16 ปีมานี้ แพนด้าตัวนี้เป็นมิตรกับเจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ มาโดยตลอด มันช่วยสร้างบรรยากาศความร่าเริงและความสนุกสนานให้กับเจ้าหน้าที่อยู่เสมอ เจ้าหน้าที่จึงตั้งชื่อให้แพนด้าตัวนี้ว่า “สี่เยี่ยว์” หมายถึงความสุข ความดีใจนั่นเอง
โดยทั่วไปแพนด้ามีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 18-20 ปี เทียบง่าย ๆ คืออายุ 1 ปีของแพนด้าเท่ากับ 3.5 ปีของมนุษย์ ถ้าคิดเลขตามหลักดังกล่าว ปี 2007 สี่เยี่ยว์มีอายุเท่ากับหนุ่มไฟแรงอายุกว่า 20 ปี เมื่อถึงปี 2023 สี่เยี่ยว์โตเป็นผู้สูงวัยเกือบ 80 ปีแล้ว
สี่เยี่ยว์มีประสบการณ์ปกป้องและขยายอาณาเขตของตัวเอง และมีความเชี่ยวชาญในการชิงคู่รักด้วย จากการสังเกตพฤติกรรมของสี่เยี่ยว์ ศูนย์วิจัยแพนด้าฉินหลิ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในฐานอนุรักษ์ซานกวนเมี่ยว์ ได้ไขปริศนาของโลกแพนด้าหลายข้อ ต่อไปขอเชิญอ่านประสบการณ์ที่ได้รวบรวมจากการสังเกตของเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ ที่พวกเขาได้เข้าไปสัมผัสยังโลกมหัศจรรย์ของแพนด้า “สี่เยี่ยว์”
ความเป็นตัวผู้อันแข็งแกร่งของสี่เยี่ยว์
เล่าเรื่องโดย คุณสือเย่าอู่
เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี
“สี่เยี่ยว์” เป็นแพนด้ายักษ์ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น ความแข็งแรงและกล้าหาญ ทำให้สี่เยี่ยว์มีความได้เปรียบในการดำรงชีวิตในป่าที่อันตรายยิ่ง ซึ่งความได้เปรียบนี้รวมถึงการสืบพันธุ์ด้วย ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ในการแย่งชิงคู่รักซึ่งมีขึ้นในโลกแพนด้ายักษ์ปีละครั้งนั้น แพนด้าสี่เยี่ยว์ได้แสดงถึงความแข็งแกร่งในการชิงคู่รักอย่างเต็มที่ สามารถได้คู่รักที่พอใจในทุกปี
“สี่เยี่ยว์” นอกจากจะไม่กลัวเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อลายพรางแล้วมันยังเข้าใจท่าทางของเจ้าหน้าที่ที่สื่อถึงการให้กำลังใจจากพวกเขาเหล่านั้นด้วย หลายปีมานี้เมื่อถึงช่วงต่อสู้เพื่อแย่งชิงคู่รักแพนด้า สี่เยี่ยว์พบว่า มีเจ้าหน้าที่คอยให้กำลังใจอยู่ มันสู้กับ“คู่ต่อสู้”อย่างกล้าหาญด้วยการใช้อุ้งมือจู่โจม“คู่ต่อสู้”แม้มันจะคุ้นเคยกับผู้คน แต่ใช่ว่ามันจะยอมให้ทุกคนเข้าใกล้มันได้ เพราะคนที่สี่เยี่ยว์ยอมให้เข้าใกล้ เพื่อให้อาหาร ให้หน่อไม้ และยาแก้อักเสบได้ กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นรวมถึงคุณหวัง เสี่ยวหลิน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯ เหอ อี้เหวิน และ เหอ อี๋ต้ง เจ้าหน้าที่พิทักษ์เขตอนุรักษ์ฯ เท่านั้น
ในการแย่งชิงคู่รักเมื่อปี 2009 มีเรื่องที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง คือ สี่เยี่ยว์ต่อสู้จนชนะในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิปี และในดินแดนที่สี่เยี่ยว์ครองนั้น มีแพนด้าตัวเมียได้คลอดลูกแพนด้า “สีน้ำตาล” ตัวหนึ่ง นับเป็นแพนด้าสีน้ำตาลตัวที่ 7 ตามการบันทึกทางวิทยาศาสตร์
“แพนด้า” สัตว์ฉลาดแต่อารมณ์เสียง่าย
เล่าเรื่องโดย คุณเหอ อี้เหวิน
เจ้าหน้าที่พิทักษ์ฐานอนุรักษ์ซานกวนเมี่ยว์ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี
เมื่อพบกับเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อลายพราง “สี่เยี่ยว์” ยอมให้บางคนเข้าใกล้ตัว และยินดีรับหน่อไม้ที่คนเหล่านี้ยื่นให้ และเมื่อรับมาแล้ว สี่เยี่ยว์จะดมหน่อไม้อย่างละเอียด จากนั้น ก็โยนทิ้งบ้าง หรือไม่ก็กินอย่างอร่อย แต่ถ้าเราสังเกตก็จะพบว่า หน่อไม้ที่ถูกโยนทิ้งนั้นส่วนใหญ่เป็นหน่อไม้ที่ถูกแมลงกัดกินไปแล้ว มันช่างดูฉลาดจริง ๆ
เดือนมีนาคมปี 2014 คุณเหอ อี้เหวินได้พบกับสี่เยี่ยว์เป็นครั้งแรกในป่าไผ่หลี่เจียวโกว เขาได้ส่งเสียงเรียกว่า “เมาเมา เมาเมา” แต่มันกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ยังคงนอนอยู่ในป่าไผ่ และกินไม้ไผ่ข้าง ๆ ตัวอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อกินอิ่มและพักได้ประมาณ 10 นาที มันก็จะเดินลงภูเขาอย่างช้า ๆ และมักจะใช้ก้นถูที่ก้านไม้และก้อนหินริมทางอยู่เสมอ มีอยู่หลายครั้ง ที่มันทำท่าเหมือนเล่นกายกรรม คือใช้สองขาข้างหน้าชูขึ้น และใช้สองขาหลังยืนเหมือนมนุษย์เหยียบต้นไม้เพื่อปัสสาวะ จากนั้นก็หายตัวเข้าไปในส่วนลึกของป่า เขากับเพื่อนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ในช่วงฤดูกาลนี้ สี่เยี่ยว์กำลังหลงใหลในความรัก พวกเขาจึงเดินตามสี่เยี่ยว์ไป โชคดีที่ได้มีโอกาสสังเกตการต่อสู้เพื่อแย่งชิงคู่รักของแพนด้าป่าถึงสองรอบ
ฤดูใบไม้ผลิปี 2008 ในการรบเพื่อแย่งชิงคู่รักที่เป็นไปอย่างดุเดือดครั้งหนึ่ง สี่เยี่ยว์ได้สู้อย่างกล้าหาญ และประสบชัยชนะด้วย ทำให้แพนด้าตัวเมียหลงรักมัน แต่ถึงกระนั้นแพนด้าสี่เยี่ยว์ก็บาดเจ็บในการรบครั้งนั้นด้วยเช่นกัน โดยมีเลือดไหลเต็มปาก และเพื่อเป็นการปลอบโยนสี่เยี่ยว์ ทางตัง เกาตี้ เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์จึงยื่นหน่อไม้ไปให้ แต่อาจจะเพราะว่า ส่งช้าไป ไม่ทันกิน สี่เยี่ยว์จึงส่งเสียงร้องแสดงความโกรธ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัง เกาตี้จึงรีบหนีไป เพราะเกรงว่าสี่เยี่ยว์จะแสดงพฤติกรรมดุร้าย
ดาราตลกในโลก “แพนด้า”
เล่าเรื่องโดย คุณตัง เกาตี้
วิศวกรระดับสูงเขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี
ปี 2014 เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิงได้ถ่ายคลิปที่แพนด้าป่ากำลังกัดซากกระดูกขาของทาคิน (Takin) ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า แพนด้าที่น่าขบขันตัวนี้ก็คือ “สี่เยี่ยว์” คลิปนี้พิสูจน์ความเชื่อที่ว่า หมีแพนด้าจัดอยู่ในหมวดหมู่สัตว์กินเนื้อ หากไม่ใช่พวกกินเจในทุกวันนี้
ปลายปี 2012 เจ้าหน้าที่คนใหม่ 12 คนของฐานอนุรักษ์ซานกวนเมี่ยว์เริ่มเข้ามาทำงาน ในวันรุ่งขึ้น สี่เยี่ยว์ก็ปรากฏตัว มันเดินไปกินไปพฤติกรรมของมันได้เชิญชวนให้เจ้าหน้าที่คนใหม่ 12 คนนี้เดินตามเข้าไปยังป่าไผ่ทึบ เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้จึงมีโอกาสสังเกตชีวิตประจำวันของแพนด้าป่า เช่น มันจะหาท่านั่งสบาย ๆ จัดไม้ไผ่ให้เป็นระบบที่มุมปากแล้วค่อยกินลงเข้าท้อง และมีพฤติกรรมรีบกินรีบถ่าย…
เดือนมีนาคมปี 2022 ทีมถ่ายทำทีมหนึ่งเดินทางเข้ามาทำงานในเขตอนุรักษ์โฝผิง สี่เยี่ยว์ก็วิ่งเข้ามาอีก แล้วหยิบจับอุปกรณ์ของทีมงานไปเล่นอย่างสนุกสนาน ลักษณะคล้ายกับมันกำลังแสดงความยืดหยุ่นของหัวแม่มือ ถ้าเปรียบเทียบคงดูเหมือนจะบอกกับทีมงานว่า ให้เข็มเล่มหนึ่ง ด้ายม้วนหนึ่ง และผ้าผืนหนึ่งมันก็สามารถเย็บเสื้อผ้าเป็นนะ
“แพนด้า”วิเคราะความเป็นศัตรูแท้-เทียม ได้ชัดเจน
เล่าเรื่องโดยคุณผู่ ชุนจี่ว์ ไกด์ทางวิชาการ
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี
ในศึกแย่งชิงคู่รักของเหล่าหมีแพนด้า คู่ต่อสู้ที่แย่งชิงกันถือว่าเป็นความสัมพันธ์แบบมีเธอไม่มีฉัน ทว่า ศัตรูที่ว่านี้ก็มีศัตรูจริงกับศัตรูปลอม ด้วยเหตุนี้สี่เยี่ยว์จึงสามารถวิเคราะห์ได้ถูกต้องและชัดเจน
เดือนเมษายน ปี 2010 สี่เยี่ยว์ได้เป็นแชมป์อีกสมัยหนึ่งต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และได้เป็นเจ้าบ่าวอีกครั้ง หลังเข้าหอแล้ว แพนด้าตัวเมียปืนขึ้นต้นไม้ และเพื่อป้องกันไม่ให้แพนด้าตัวผู้ตัวอื่น ๆ มาจีบเจ้าสาวของตน “สี่เยี่ยว์” นั่งเฝ้าเจ้าสาวของตนอย่างระมัดระวัง นี่นับเป็นโอกาสการบันทึกภาพที่หาได้ยาก โชคดีที่คุณเหลียง ฉีฮุ่ย เจ้าหน้าที่กรมควบคุมดูแลเขตอนุรักษ์ฯ ได้พบโอกาสนี้ แต่การเดินไปเดินมาเพื่อหามุมถ่ายทำที่ดีนั้น ทำให้สี่เยี่ยว์โกรธมาก อาจจะมองว่ามีศัตรูกำลังฉวยโอกาสมาจีบเจ้าสาวของตน ทำให้สี่เยี่ยว์พยายามไล่คุณเหลียงออกไป จึงเกิดเหตุการณ์หมีแพนด้ากับคนคนหนึ่งวิ่งไล่กันในป่าไม้ ท้ายที่สุด คุณเหลียง ฉีฮุ่ยต้องกระโดดลงจากภูเขาเตี้ยแห่งหนึ่ง จึงพ้นอันตราย เมื่อแพนด้าสี่เยี่ยว์เห็นว่าคู่แข่งหนีไปแล้ว มันจึงหันกลับมาเฝ้าที่ต้นไม้ต้นนั้นต่อ
“แพนด้า” กล้าหาญ และมีกลยุทธ์ด้วย
เล่าเรื่องโดย คุณหลิวคุน
เจ้าหน้าที่พิทักษ์ฐานอนุรักษ์ซานกวนเมี่ยว์ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี
เมื่อแพนด้ามีอายุโตขึ้นเรื่อย ๆ ในสนามรบแย่งชิงคู่รัก อย่างแพนด้าสี่เยี่ยว์ ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนจากแพนด้าหนุ่มไฟแรงเป็นแพนด้าสูงวัยที่มีความหนักแน่นและสุขุมมากขึ้นในสนามรบ มันเริ่มค้นหาทำเลที่ตั้งที่เป็นประโยชน์กับตนเอง และหาโอกาสที่ใช้ประโยชน์ได้
ปี 2016 สี่เยี่ยว์เดินตามทีมแพนด้าที่ประกอบด้วยแพนด้าตัวเมียกับตัวผู้ที่ยังคงแสวงหาความรัก แต่สี่เยี่ยว์กลับไม่ได้เป็นผู้เริ่มรุกก่อนเหมือนเช่นตอนที่มันยังเป็นหนุ่ม แต่มันกลับนั่งนิ่ง ๆ เพื่อรอสบโอกาสที่เป็นประโยชน์ แล้วค่อยสู้กับศัตรูทั้งหลาย แต่ครั้งนี้ มันไม่ได้เข้าตาแพนด้าตัวเมียอีก
ปี 2017 สี่เยี่ยว์ ร่วมต่อสู้ชิงคู่รักอีกครั้ง ครั้งนี้มันสามารถกัดคู่ต่อสู้ได้ แต่ขณะเดียวกันจมูกของมันก็เป็นแผลเช่นกัน น่าเสียดายที่มันไม่ได้เข้าตาแพนด้าตัวเมียอีก
เจ้าหน้าที่นึกว่า ตั้งแต่นี้ไป สี่เยี่ยว์อาจจะถอนตัวออกจากการต่อสู้อีก แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2018 สี่เยี่ยว์ปรากฎตัวในสนามรบแย่งชิงคู่รักอีกครั้ง สี่เยี่ยว์เดินตามแพนด้าตัวเมียด้วยความจริงใจตลอด แต่แพนด้าตัวเมียตัวนี้ดูเหมือนอยากได้คู่รักวัยหนุ่มที่มีอายุพอ ๆ กับตนเองมากกว่าอยู่กับสี่เยี่ยว์ ที่มีอายุมากแล้ว แพนด้าตัวเมียตัวนี้จึงหลบหนีเข้าถ้ำภูเขา ไม่ยอมปรากฏตัว แต่สี่เยี่ยว์มีประสบการณ์มากพอสมควร เมื่อวิเคราะห์ได้ว่า แพนด้าตัวเมียที่ตนรักอยู่ซ่อนตัวที่ไหน มันก็เดินไปเดินมาตามบริเวณถ้ำเขาแห่งนั้น และไม่ยอมไปไหนเลย…
สู้รบถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต
เล่าเรื่องโดย คุณเหอ เสียงโป๋
เจ้าหน้าที่พิทักษ์ฐานอนุรักษ์ซานกวนเมี่ยว์ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติโฝผิง มณฑลส่านซี
พอเข้าฤดูผสมพันธุ์ปี 2019 สี่เยี่ยว์พุ่งเข้าสนามต่อสู้ชิงคู่รักอีกครั้ง ทำให้เราได้รู้ว่า แพนดาตัวผู้แม้อายุมากขนาดนี้ยังต้องแย่งชิงคู่รักอีก และทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นกับการสืบพันธุ์ของกลุ่มแพนด้าในเขตอนุรักษ์โฝผิง ในการต่อสู้ครั้งนี้ ขาข้างหน้าของสี่เยี่ยว์ถูกทำร้ายอย่างหนัก มันจึงพ่ายแพ้ แม้จะได้รับการรักษาที่ดีหลังจากนั้น แต่ยังคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเพราะสี่เยี่ยว์ต้องกลายเป็นแพนด้าพิการ ท่าทางการเดินในป่าไม่ได้สง่างามอีกต่อไป เสมือนผู้สูงวัยที่เดินไม่คล่องแคล่ว อย่างไรก็ตาม สี่เยี่ยว์ไม่ได้เป็นแพนด้าธรรมดา มันไม่ได้เข้าสถานสงเคราะห์ดูแลแพนด้าสักที่เลย แต่หากยังคงครองดินแดนของตน และดำรงชีวิตอย่างเข้มแข็งในป่าธรรมชาติ
ฤดูผสมพันธุ์ปี 2020 สี่เยี่ยว์ร่วมทีมหาคู่อีก และพุ่งเข้าสนามรบอีกอย่างกล้าหาญ น่าเสียดาย มันพ่ายแพ้อีก และเพิ่มแผลใหม่ด้วย
ทุกคนเห็นว่า จากนั้นไป สี่เยี่ยว์จะใช้ชีวิตในป่าอย่างโดดเดี่ยว แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 สี่เยี่ยว์ปรากฏตัวในต่อสู้อีก แต่ครั้งนี้มันไม่ได้สู้เอง เพียงแต่มันตระเวนไปตามบริเวณข้างนอกของสนามต่อสู้เท่านั้น
เดือนมีนาคมปี 2023 คุณหลี่เป่าเต๋อ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ฐานอนุรักษ์ซานกวนเมี่ยว์ได้ถ่ายคลิปที่สี่เยี่ยว์ฝ่าแม่น้ำตงเหอเพื่อไปชุมนุมกับแพนด้าตัวอื่น ช่างเป็นภาพอันน่าทึ่งกับความมีชีวิตชีวาของสี่เยี่ยว์
เมื่อวันเวลาเคลื่อนผ่านไป ในแต่ละวันเจ้าแพนด้า “สี่เยี่ยว์” ก็ชราภาพลงเรื่อย ๆ แต่ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ มันก็จะยังต่อสู้ต่อไป ทำให้เห็นว่าตลอดช่วงชีวิตของสี่เยี่ยว์ มันแสวงหาความรักและความอิสระมาโดยตลอด และนับเป็นความมหัศจรรย์ในโลกแพนด้า ที่มนุษย์เราได้เรียนรู้อย่างมากจากชีวิตของ “สี่เยี่ยว์”
แปลโดย หานซี
ตรวจแก้โดย มณีนาถ อ่อนพรรณา
*หมายเหตุ
พื้นที่ทางด้านใต้ของเทือกเขาฉินหลิ่ง มีทรัพยากรป่าไผ่ที่อุดมสมบูรณ์ ที่นี่ไม่ค่อยมีมนุษย์เข้าไปมากนัก แต่มีสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งในผืนป่าแห่งนี้ เต็มไปด้วยความน่าอัศจรรย์นั่นคือเจ้า “สี่เยี่ยว์” แพนด้าป่าแห่งนี้ ที่ใช้ชีวิตอย่างเสรีทั้งกินแล้วนอน นอนแล้วกิน แม้จะเป็นสัตว์ป่า แต่สี่เยี่ยว์กลับมีพฤติกรรมที่น่าประหลาดใจและน่าประทับใจพร้อม ๆ กัน นั่นคือ การมีความรักความผูกพันกับมนุษย์ และยังมีสัญชาติฝักใฝ่ในความรักจนถึงช่วงปั้นปลายชีวิต
“สี่เยี่ยว์” เป็นหนึ่งในแพนด้าป่าจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในจีน ด้วยความพยายามของจีนในการอนุรักษ์และศึกษาวิจัยแพนด้ายักษ์มาเกือบครึ่งศตวรรษ ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง โดยปี 2016 องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ IUCN ประกาศปรับระดับประเมินความเสี่ยง ( Red List ) ของแพนด้ายักษ์จากสัตว์ "ใกล้สูญพันธุ์" ให้เป็นสัตว์ "ที่เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์" แทน นั่นหมายถึง ประชากรแพนด้าหลุดจากกลุ่มสัตว์สายพันธุ์เปราะบางที่ใกล้จะสูญพันธุ์จากโลกนี้นั่นเอง
สำหรับแพนด้ายักษ์อาศัยอยู่ในโลกใบนี้อย่างน้อย 8 ล้านปีมาแล้ว ถูกเรียกเป็น “ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต” เพราะเชื่อว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่น่ารักของแพนด้าน่าจะมีปริศนาบางอย่างที่มนุษย์อย่างเรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ และแพนด้ายักษ์ “สี่เยี่ยว์” ก็เป็นหลักฐานที่ดีมาก