เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 14 มิ.ย. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการลักลอบนำเนื้อสุกรเถื่อนจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย แต่ติดค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ว่า เข้าใจว่าติดที่ท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้ ต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงเอาไปทำลายล่าช้าและที่สำคัญเรื่องแบบนี้ตรวจสอบเอกสารก็พบ ว่านายทุนที่ขนเข้ามาคือใคร ทำไมทางกรมศุลกากร หรืออธิบดีกรมศุลกากรจึงไม่เร่งรัดไปยังอธิบดีกรมปศุสัตว์ ในการดำเนินคดีทางกฎหมาย มีการปล่อยไว้ทำไม ได้ข่าวว่า 7-8 เดือนแล้ว ทางกลุ่มเกษตรกรก็ตั้งข้อสงสัย ว่าจะมีการปกป้องนายทุนกลุ่มหมูเถื่อนเหล่านี้หรือไม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีการติดขัดบางอย่าง จึงอยากให้อธิบดีกรมศุลกากรเร่งจัดการ เข้าใจว่าคดีนี้มีการยื่นให้กับดีเอสไอแล้ว จึงอยากฝากให้อธิบดีกรมศุลกากรเข้าไปเร่งรัดคดีนี้ด้วย ถ้าไม่มีการจัดการอย่างจริงจัง เนื้อหมูเถื่อนจะมีการสวมสิทธิ์เป็นอาหารทะเล เครื่องในสุกรหรือหนังสุกรซึ่งไม่มีการตรวจโรคอะไร นั่นหมายความว่าอาจจะเจอสารเร่งเนื้อแดง หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็จะได้เนื้อหมูที่ปนเปื้อน สุดท้ายก็อาจจะเป็นแหล่งที่ทำให้เกิดการระบาดโรคในสุกรได้อีก ซึ่งถ้าเป็นการระบาดใหญ่ขึ้นมาก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
เมื่อถามว่าหากเนื้อสุกรล็อตนี้ ถูกกระจายออกไปและอยู่ในอุตสาหกรรมอาหารจะเป็นอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า แม้ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถแยกออก แต่ประชาชนแยกกันไม่ออกว่าเป็นเนื้อสุกรที่ผ่านการตรวจโรคอย่างถูกต้อง หรือเป็นเนื้อสุกรเถื่อนที่ถูกลักลอบนำเข้ามา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรหลายสิบล้านคนที่บริโภคเนื้อสุกรเป็นอาหาร
เมื่อถามต่อว่า เหตุใดนายทุนที่อยู่เบื้องหลังต้องดีลเนื้อสุกรจากต่างประเทศ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เนื้อสุกรที่ถูกลักลอบนำเข้ามาไม่ต้องผ่านการตรวจสอบโรคหรือสารเร่งเนื้อแดง ต้นทุนก็จะถูกและขายทำกำไรโดยตัดราคานิดหน่อย ซึ่งเป็นการทำร้ายเกษตรกร ในขณะที่หลังจากโรคอหิวาสุกรระบาด เกษตรกรรายย่อยได้ปรับปรุงการเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพสูง ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายสุกรก็มีการตรวจปัสสาวะสุกร เพื่อยืนยันว่าไม่มีสารเร่งเนื้อแดง
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า ทางอธิบดีกรมศุลกากรทราบแล้ว ข่าวการนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อนกลายเป็นข่าวใหญ่แล้ว ในส่วนของท่าเรือแหลมฉบังมีการตรวจที่ละเอียด แต่ทำให้เกิดคำถามว่า ท่าเรืออื่นๆ มีการตรวจที่เข้มงวดแล้วหรือยัง เราไม่เห็นความพยายามหรือความกระตือรือร้นอย่างจริงจังในการกวดขันเรื่องนี้ สุดท้ายคนที่รับกรรมคือเกษตรกรรายย่อยผู้เลี้ยงสุกรและประชาชน
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายอาจจะโจมตีว่าพรรคก้าวไกลยังไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ แต่กลับมีการเปิดเผยเรื่องต่างๆ นายวิโรจน์ กล่าวว่า อย่าเรียกว่าเปิดโปง เราเรียกว่าเป็นแนวทางการจัดการ และวิธีการจัดการก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เช่น การเปิดตู้ตรวจ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งไม่ต้องรอให้ใครมาสั่ง
เมื่อถามต่อว่า เริ่มมีข้อมูลเกี่ยวกับส่วยเรื่องอื่นๆ เข้ามาหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า สถานบันเทิงตอนกลางคืนที่อยากยืนยันว่า คนที่เปิดกิจการสถานบริการกลางคืนเขาทำธุรกิจสุจริต แต่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลนี้พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ผู้ประกอบการสถานบันเทิงกลายเป็นสีเทา ซึ่งไม่ยุติธรรม ทำให้เกิดวัฒนธรรมการรีดไถจากเจ้าหน้าที่ปกครองกลุ่มหนึ่ง เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมกลุ่มหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่ง
“เอาง่ายๆ วันนี้คุณลองเปิดสถานบันเทิง คุณไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะวิ่งมาหาคุณเอง ซึ่งเรียกว่าแม่บ้าน และสุดท้ายก็เอากฎหมายที่ล้าสมัยมาเล่นงานหรือสร้างความรำคาญ หรืออาจจะเอาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 32 มากลั่นแกล้ง และยังมีกฎหมายที่จะถูกนำมาใช้กลั่นแกล้งเต็มไปหมด มองว่าธุรกิจส่วยสถานบันเทิง มองรวมๆ แล้วมีมากกว่า 1 แสนราย ซึ่งก็คงต้องเตือนให้เพลาๆ ลงบ้าง"
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีเอกสารหลุดออกมา 71 เขตที่กกต. ยังไม่รับรองต่อส.ส. ซึ่ง 1 ในนั้นมีเขตของน.ส.รัชนก ศรีนอก ว่าที่ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล เนื่องจากไม่ผ่านคุณสมบัติ ต้องรอพิจารณา นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังไม่มีความเห็น เป็นเรื่องของกกต. เมื่อถามต่อว่าจะฝากอะไรถึงกกต. หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า“ทำงานโดยสุจริตก็ไม่ต้องกลัวอะไร ผมก็ยังตั้งคำถามเหมือนกับประชาชนทั่วไปว่า สโลแกนใหม่เอาคำว่า “โปร่งใส” ออกไปทำไม ไม่เอาแล้วเหรอความโปร่งใส เอากลับมาเถอะ แค่นี้ก็โดนตำหนิพอแล้ว”