มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง (BLCU) เปิดตัวหลักสูตร TEPCIAN (Top Executive Program on China Business Insights and Network) รุ่นที่ 3 หรือหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านองค์ความรู้และความร่วมมือทางธุรกิจจีน ที่นำเอาความสุดยอดขั้นเซียนของแต่ละองค์กร มาบูรณาการร่วมกันจนกลายเป็นหลักสูตรที่จะเชื่อมเครือข่ายธุรกิจ สานสัมพันธ์ไทย-จีน ให้เกิดความเข้าใจอันดี และมีการต่อยอดทางธุรกิจระหว่างกัน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยมีมุมมองว่า เศรษฐกิจจีนมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก และประเทศจีนก็ยังเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย เศรษฐกิจภายในของจีนยังมีความแข็งแกร่งอยู่มาก ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเติบโตได้อีกมากในอนาคต
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเรียนการสอนของหลักสูตร TEPCIAN จะเน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงจากผู้บริหารและผู้ประกอบการที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในไทยและจีน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน สามารถเสริมสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ด้านการค้า และการพาณิชย์ระหว่างผู้บริหารระดับสูง ในภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งไทยและจีน โดยเริ่มเรียนรู้จากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน เรื่อยมาจนถึงนโยบายการสร้างชาติจีนใหม่ โครงสร้างการบริหารประเทศ ตลอดจนการเติบโตทางธุรกิจและเทคโนโลยี นอกจากนั้น ยังเป็นหลักสูตรที่เน้นพัฒนาผู้เรียนให้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจวัฒนธรรมจีน ตลอดจนสร้างความประทับใจในการร่วมมือทางธุรกิจกับจีนได้ โดยรุ่นนี้ผู้เข้าร่วมอบรมมีทั้งชาวไทย ชาวจีน ซึ่งเป็นผู้บริหารชั้นนำจากภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น ดร.กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ดร พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ดร.อธิป พีชานนท์ เป็นต้น
นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ผู้อำนวยการร่วมหลักสูตร TEPCIAN และผู้แทนจาก BLCU กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของทั้ง 3 องค์กร เชื่อว่าหลักสูตร TEPCIAN เป็นหลักสูตรหนึ่งเดียวที่รวมองค์ความรู้และการเชื่อมเครือข่ายธุรกิจไว้ในที่เดียวกัน ที่สามารถสร้างโอกาสต่อยอดทางสร้างธุรกิจระหว่างไทย และ จีน ให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งทาง BLCU มีความเชี่ยวชาญในการสอนภาษาจีนเพื่อธุรกิจสำหรับชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจได้ว่า ผู้เรียนจะได้รับประโยชน์จากการเรียนภาษาจีนอย่างแน่นอน
โดยพิธีเปิดหลักสูตรในวันนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาบรรยายในหัวข้อ “สายใยไทย-จีนที่ตัดไม่ขาด” กล่าวว่า ไทยมีความสัมพันธ์กับจีนมาช้านานแล้ว โดยจีนมีความพิเศษและมีความแตกต่างจากความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ มีรากฐานสำคัญ 4 ประการดังนี้ ความสัมพันธ์ทางการทูต ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม และความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ทางการทูตมีความผูกพันและติดต่อกันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา และในปี พ.ศ.2518 โดยมี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันจนมาถึงปัจจุบัน ทางธุรกิจ มีการค้าขายมาตั้งแต่สมัย และทางเครือญาติ ความสัมพันธ์นี้นับตั้งแต่ราชวงศ์ ขุนนาง นามสกุลแซ่ต่างๆ และคนไทยเชื้อสายจีนก็ทำประโยชน์มากมายในระบบราชการไทย นับได้ว่าคนจีนกับคนไทยมีความสัมพันธ์และผูกพันกันมานาน จึงอาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดุจพี่น้องระหว่างไทยกับจีนได้มีมาอย่างยาวนาน เหมือนคำกล่าวที่ว่า “ไทยจีนใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”