นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน ""ข่าวดี...มาก่อนข่าวร้าย?" เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2566 โดยเชื่อว่า คลิปเสียงประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีจงใจหลุดออกมาปฎิบัติการตอกลิ่มขัดแย้งให้พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยที่กำลังช่วงชิงนายกฯ ถึงที่สุดปลายทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะคว้านายกฯ ไปครองสำเร็จ
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีหุ้นไอทีวี เกี่ยวข้องทั้งทางการเมืองและกฎหมาย โดยไอทีวีเกิดขึ้นในปี 2535 ต้องการให้เป็นสื่อเสรี เป็นช่องทางสาธารณะของประชาชน ไม่อยู่ใต้การครอบงำของรัฐ แต่สามารถดำเนินธุรกิจได้ กระทั่งไอทีวีมาอยู่ในมือของชินคอร์ป แล้วเกิดปัญหากับนักข่าวหลายคน นักข่าวที่มีทัศนคติเป็นปัญหากับเจ้าของก็ถูกสั่งให้ออก เมื่อเกิดปัญหาจ่ายค่าสัมปทานกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จนถูกฟ้องร้องยกเลิกสัญญาพร้อมเรียกเงินค้างจ่ายค่าสัมปทานระบบ UHF
นอกจากนี้ “จตุพร” ยังเชื่อว่าคลิปเสียงเป็นข่าวดี คาดผู้อำนวยการสร้างจงใจปล่อยให้ประทุขัดแย้งช่วงเลือก ปธ.สภา-นายกฯ” สุดท้ายกลเกมปลายทางตัดสินด้วยเล่ห์เพทุบายปั่นวุ่นวายได้ข่าวร้าย
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การคิดอ่านทางการเมืองในรอบนี้ ถึงนายพิธา จะถูกหยุดหรือไม่หยุดการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่มีกรณีถือหุ้นไอทีวีมาเป็นอุปสรรคขวางกั้นก็ตาม ย่อมหาเสียงไม่ได้ถึง 376 เสียงอยู่ดี ดังนั้น แม้มีคลิปเสียงหลุดออกมา นายพิธา ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ อยู่ดี
“สิ่งสำคัญ ทางที่กำลังเดินไปสู่ปลายทางนั้น จะเห็นคู่มวยอย่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยกำลังเริ่มตั้งท่าเดือดใส่กันในกรณีเลือกประธานสภา และเลือกนายกฯ ซึ่งฟันธงได้เลยว่า คนเป็นนายกฯ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ) ส่วนใครจะโหวตกันบ้าง คอยดูงูเห่าจะเลื้อยเพ่นพ่านในห้องประชุมสองสภาวันโหวตเลือกนายกฯ”
ขอบคุณรายการ:ประเทศไทยต้องมาก่อน
