วันที่ 11 มิ.ย.2566 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่รับ 3 คำร้องของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล การถือหุ้นไอทีวี แต่รับพิจารณามาตรา 151 ว่า กมธ.ฯจะมีการประชุมในวันอังคารที่ 20 มิ.ย.เพื่อพิจารณาศึกษาเพราะกกต.ต้องพูดให้ชัดๆ เพราะตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ซึ่งมาตรา 151 ไม่ได้ผิดกฎหมายเรื่องเดียว แต่ผิดกับกฎหมายหลายเรื่อง ดังนั้นกกต.ต้องพูดให้ชัดว่าหลังจากนี้ถ้าไปพบว่ามีการกระทำความผิด มีขั้นตอนอะไรที่จะต้องทำเพื่อให้ประชาชนไม่สับสน แล้วตีความกันไปเอง เพราะตอนนี้ก็ตีความกันไป ฝ่ายนี้ก็ตีความเข้าข้างตัวเอง อีกฝ่ายก็ตีความไปอีกทาง ความที่ไม่ชัดเจนของกกต. และถ้าขาดคุณสมบัติจริงแล้วไปรับรองไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นอีก กกต.ก็พูดได้
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลระบุว่ามติ กกต.เป็นการเตะตัดขานายพิธาไม่ให้เป็นนายกฯ นายเสรี กล่าวว่า โทษจะร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ก็ต้องดูที่กฎหมาย ไม่ได้เป็นการตัดขา เขาเรียกว่าสะดุดขาตัวเอง เพราะคุณทำเองทั้งนั้น แล้วจะไปว่าใครเขาตัดขา
“ ไม่มีใครเขามาเตะตัดขาหรอก เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องสะดุดขาตัวเองทั้งนั้น ทำเองเออเอง สะดุดเอง ล้มเอง แล้วโทษคนอื่นเขา" นายเสรี กล่าว
เมื่อถามว่าคิดว่านายพิธารู้อยู่แล้วใช่หรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า แสดงว่าทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่ทำไมนายพิธาดันเก็บไว้ หนังเรื่องนี้มันอีกยาว เพราะตอนนี้ตนไปเจอคำพิพากษาของศาลฎีกาที่เคยตัดสินเรื่องเหล่านี้มาก่อน ที่ตัดสินว่าเมื่อเจ้าของมรดกเสียชีวิต ให้กรรมสิทธิ์ในหุ้น ในทรัพย์มรดกตกเป็นของทายาทโดยอัตโนมัติทันทีตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่เป็นผู้จัดการมรดกอย่างเดียว ดังนั้น การที่นายพิธาบอกว่าเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่ใช่