ผู้เสียหายถูกหลอกให้รักแล้วพาไปดาวน์รถยนต์ และเครื่องสำอางค์ เสียหายกว่า 10 ล้านบาท บุกร้อง “รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” เร่งรัดดำเนินคดี หลังจากพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกเหมือนกันจำนวนมาก

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ์ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน ที่ถูกหลอกให้ดาวน์รถยนต์ และถูกหลอกซื้ออาหารเสริม มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ร้องเรียนและนำหลักฐานมายื่นให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดี

โดยนายพิเชษฐ์ บูรณสรรค์ ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มแรกเป็นผู้ชายที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “หมวย บุษราคัม” มาตีสนิทผ่านโปรแกรมหาคู่ จากนั้นจะทักไปหาผู้ชายและหลอกว่าจะคบหากัน จากนั้นจะออกอุบายว่าเคยมีแฟนแต่เลิกไปแล้ว อยากจะคบหากับคนใหม่และจะสร้างครอบครัวร่วมกัน และจะให้ไปดาวน์รถยนต์ป้ายแดงตามโชว์รูมในย่านจังหวัดชลบุรี โดยใช้เอกสารส่วนตัวของฝ่ายชายทั้งหมด เมื่อออกรถมาได้แล้วก็จะนำรถไปและก็เลิกติดต่อกับฝ่ายชายทันที โดยผู้เสียหายคนนี้ถูกหลอกให้ไปดาวน์รถยนต์ 2 คัน ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าผ่อนรถยนต์ด้วยตัวเองเดือนละ 24,000 บาท

นายเอกภพ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายแล้ว ยังได้รับแจ้งจากพนักงานขายของโชว์รูมรถแห่งหนึ่งว่าผู้หญิงคนนี้ยังพาผู้ชายไปเลือกซื้อรถยนต์อยู่ โดยผู้เสียหายแต่ละคนจะถูกหลอกใช้เวลา 5-7 วัน ก่อนจะพาไปดาวน์รถยนต์ หากไม่ได้ก็จะไปดาวน์รถจักรยานยนต์โดยเลือกรถที่มีราคาแพง และเป็นที่ต้องการของตลาด และเมื่อผู้เสียหายพยายามติดต่อกลับไปกลับถูกข่มขู่ถึงขั้นชีวิต และผู้ต้องหาคนนี้เป็นถือว่าเป็นภัยต่อสังคมและคาดว่าทำเป็นขบวนการ แต่สร้างความเสียหายให้กับกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก

ด้านนางสาวศิริวรรร ผู้เสียหายอีกกลุ่มเป็นผู้หญิงในจังหวัดชลบุรีเช่นกัน ที่ถูกผู้หญิงคนนี้หลอกมาตีสนิท โดยที่จะไปหาเหยื่อตามกลุ่มรถซิ่ง และกลุ่มขายเครื่องสำอางค์ จากนั้นก็จะชวนพูดคุยกันจนสนิท แต่จะใช้เวลานานกว่ากลุ่มแรกประมาณ 2 ปี และจะมาอ้างว่าอยากช่วยขายอาหารเสริม ขอเหมาเครื่องสำอางค์ หรืออาหารเสริมไปขายต่อ โดยมัดจำเพียงร้อยละ 10 ของราคาสินค้า และก็จะเอาไปขายต่อครึ่งราคาของสินค้าผ่านร้านค้าส่งเพื่อให้ได้เงินเร็ว แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินผู้เสียหายกลับติดต่อไม่ได้ และมีผู้เสียหายถูกหลอกลักษณะนี้กว่า 100 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 8 แสน ถึง 1 ล้าน 2 แสนบาท ต่อคน

ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้ก็จะสืบสวนโดยเร็ว เบื้องต้นก็ทราบว่ากลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ 3-4 คน โดยจะตรวจสอบพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับ ถึงผู้เกี่ยวข้อง และเชื่อว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นพบว่า ถูกใส่กำไลอีเอ็ม และยังก่อเหตุหลอกผู้อื่นอยู่อีก ก็จะไปตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุคนนี้เคยถูกดำเนินคดีอะไรไปบ้าง