เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66 ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฎฐ์ มือกฎหมายมหาชน ออกมาให้ความเห็นกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนนักศึกษาแห่งชาติ PELAJAR BANGSA มีการเปิดตัวกลุ่มเป็นครั้งแรก ที่คณะรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า แนวคิด วิธีการ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกี่ยวกับความรู้สึกและความเชื่อในอดีตที่ต้องการปกครองตนเองในรัฐปาตานี หรือปัตตานีเดิมในระดับมลรัฐที่แยกตัวออกมาจากมาลายาอยู่ในเขตดินแดงประเทศไทย โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้
"ดังนั้น การแจกแบบสอบถามประชาชนที่ร่วมสัมมนาของกลุ่มขบวนนักศึกษาแห่งชาติ PELAJAR BANGSA ที่มีนายอิรฟาน อูมา เป็นผู้นำ จะต้องพิจารณาก่อนว่า ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะการแบ่งแยกดินแดน ถือเป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน มีโทษทางอาญา" ดร.ณัฐวุฒิ ระบุ
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าที่ผ่านมา ตนเห็นว่าในเรื่อง RSD RIGHT TO SELF-DETERMINATION หรือ สิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตนเอง มีการเคลื่อนไหวมานานหลายปีในพื้นที่เป็นการเคลื่อนไหวในเชิงปิด ไม่มีการแสดงออก ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ เป็นไปตาม มติของสหประชาชาติหรือ UN มติที่ 1514 ในปี1960 ได้เขียน เพื่อให้ประเทศที่ถูกนักล่าอาณานิคม มีสิทธิเรียกร้องในการกำหนดชะตากรรมของตนเองได้ ชะตากรรมของตนเองมีในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ เรื่องของการศึกษา ศาสนา และความเป็นอยู่
"แต่การเรียกร้องกำหนดตนเองเพื่อแยกรัฐปาตานีปกครองตนเอง หากเป็นเรื่องจริง ถือว่า เป็นภัยแก่ความมั่นคง หน่วยงานความมั่นคงยินยอมให้มีการสัมมาเชิงสัญลักษณ์แบบนี้ ได้อย่างไร เพราะเป็นสารตั้งต้นความไม่สงบใน 3 จังหวัดภาคใต้ หากพิจารณาถึงแบบสอบถาม เพื่อสอบถามความต้องการของคนในพื้นที่ ไม่ต่างจากการจัดทำประชามติ รับฟังความคิดเห็นผู้เข้าร่วมในการประชุมสัมนา และเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาวิพากษ์วิจารณ์ ถามว่า สังคมได้ประโยชน์อะไร เชิงวิชาการหรือไม่อย่างไร เพราะหากจัดทำในเชิงวิชาการ นำไปสู่การปฎิบัติแท้จริง ส่งผลให้ไทยเสียดินแดน จะรุกลามไปยังจังหวัดใกล้เคียง นำไปสู่ให้สหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการในประเทศไทย
ดังนั้นการแจกแบบสอบถามไม่ต่างจาก การจัดทำประชามติ การแยกพื้นที่อ้างรัฐปาตานี มาลายาเดิม ย่อมทำให้เกิดกระบวนการแยกเขตแดนเด็ดขาด ทำให้เกิดสภาพเสียดินแดน แม้จะซ่อนรูปเพื่อให้เป็นการประชามติโดยชอบด้วยกฎหมาย ลักษณะเปิด แต่ผลสุดท้ายจังหวัดปัตตานี เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย การแยกปกครอง กำหนดอนาคตของตนเอง โดยกำหนดเขต ดินแดน ประชากร อำนาจอธิปไตยและรัฐปาตานี ปกครองตนเอง เท่ากับแยกอำนาจปกครองโดยเด็ดขาด ทำให้ไทยเสียดินแดน ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นกบฎแผ่นดิน พี่น้องประชาชนคนไทยยินยอมยกดินแดนให้กลุ่มคนไม่กี่คนให้ปกครองตนเองหรือไม่ เพราะวิธีการเหล่านี้ จะเห็นได้ชัดว่า เป็นใบเสร็จยืนยันว่า กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดชายแดนใต้มีจริง"
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางการเมืองและการเคลื่อนไหวในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยไม่ไปละเมิดต่อกฎหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนนั่น เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ การที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีสมาชิกในข้อมติดังกล่าวว่า ได้ตั้งข้อสงวนในเรื่องนี้ไว้แต่แรก ของการเข้าไปเป็นภาคีสมาชิกตามข้อมตินี้ ว่า การกำหนดชะตากรรมตนเองไม่ได้หมายรวมถึงการแบ่งแยกดินแดน เพราะว่าประเทศไทยเป็นอาณาจักรหนึ่งเดียวที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้