จากกรณีที่มีผู้ต้องหาคลั่งง้อแฟนสาวไม่สำเร็จ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันกว่า 30 แผล จนถึงแก่ความตาย และฟันพลเมืองดีที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ตาย จำนวน 2 ราย โดยเหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย ซึ่งมีอัตราโทษประหารชีวิต และความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ที่มีอัตราโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ต้องหาก่อเหตุอย่างทารุณโหดร้าย จำเป็นที่จะต้องให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตามกฎหมาย จึงได้ประสานความร่วมมือกับ นางสาวสุดารัตน์ ยินดี ยุติธรรมจังหวัดตราด เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ประจำจังหวัดตราด ซึ่งมี นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 5/2566 ได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) แก่ผู้เสียหาย ทั้ง 3 ราย ได้แก่ 1. กรณีผู้เสียชีวิต (เสียชีวิตอย่างทรมาน หรือถูกกระทำทารุณโหดร้าย) จำนวน 140,000 บาท 2. กรณีผู้บาดเจ็บ (บาดเจ็บเนื่องจากประพฤติตนเป็นพลเมืองดี) พิจารณาตามความเสียหายที่ได้รับ คือ 2.1 ผู้บาดเจ็บที่ 1 เป็นเงินจำนวน 54,760 บาท และ 2.2 ผู้บาดเจ็บที่ 2 เป็นเงินจำนวน 53,400 บาท รวมทั้ง 3 ราย เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 248,160 บาท
อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราจำเป็นจะต้องเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตามกฎหมาย และตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญาเป็นอย่างยิ่ง และพร้อมยืนเคียงข้าง "ผู้บริสุทธิ์" และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง