เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 9 มิ.ย. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้มีการนับคะแนนใหม่ 47 หน่วย มีของพรรคภูมิใจไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่ ว่ายังไม่ได้ตรวจสอบ ตนก็ติดตามข่าวเหมือนสื่อมวลชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้มีพรรคการเมืองไหนมาดีลกับพรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าไม่มี ตอนนี้คุยเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก เพราะเราต้องทำตามมารยาท และพรรคภูมิใจไทยก็เคยพูดไปแล้วว่าพรรคที่ได้อันดับ 1 ก็ต้องจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยได้ที่ 3 ไม่ใช่ที่ 2 เราก็ต้องอยู่เฉยๆ 

เมื่อถามถึง กระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไทยในเดือนก.ค.แต่ถูกครอบครัวเบรกไว้ ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมองอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ตนก็เคารพนายทักษิณเสมอ แต่เรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว เราไม่ใช่คนในครอบครัว ต้องเคารพการตัดสินใจของครอบครัว ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ 

เมื่อถามว่า การกลับมาหรือไม่กลับของนายทักษิณจะทำให้ทิศทางการเมืองเปลี่ยนไปหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยคิดว่าคนไทยทุกคนมีสิทธิ์ภายใต้กฎหมายอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยวางหลักเรื่องการโหวตประธานอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่วางเพราะต้องรอการรับรอง ส.ส. จาก กกต. ก่อน ถ้าถามว่า กกต.ช้าไหม หากเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถือว่าไม่ช้า และหากเทียบกับรัฐธรรมนูญก็ให้เวลา 60 วัน ถือว่ายังอยู่ในเวลา ฉะนั้นหาก กกต.ยังไม่ประกาศผล ก็ถือว่ายังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ เดี๋ยวก็มีนับใหม่ เดี๋ยวก็มีเช็กคุณสมบัติ เลือกใหม่อีกเราก็ไม่รู้ว่าใครเบอร์ 1 เบอร์ 2 กันแน่ แต่เราก็ไม่กังวล เพราะคงไม่ตกมาถึงเบอร์ 3 คงไม่ตัดสิทธิ์อะไรจนพรรคที่ได้ 71 เสียงอย่างพรรคภูมิใจไทยได้เป็นพรรคอันดับ 1 เราจึงไม่กังวล แต่ถ้าเราอยู่พรรคอันดับ2 ค่อยมานั่งคิดเพราะเราอยู่อันดับที่ 3 

เมื่อถามว่า ที่บอกว่าพรรคอันดับ 2 อาจขึ้นมาเป็นพรรคอันดับ 1 เป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าตนอยากให้ไม่มีปัญหาดีที่สุด พรรคภูมิใจไทยไม่เคยทำอะไรให้เป็นปัญหาเลย เราไม่พยายามที่จะเคลื่อนไหวหรือไปว่ากล่าววิพากษ์วิจารณ์อะไร เราเคารพกติกาและทำตามมารยาททางการเมืองที่ควรจะทำ

เมื่อถามว่า สรุปแล้วคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ได้ทำงานช้าไปใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าตนพูดไม่ได้ ถ้าถามคนทำงานก็ยังอยู่ในกรอบเวลา