“สยามรัฐ” ยืนหยัดอยู่บนบรรณพิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาน “นิคฺคณฺเหนิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” ...*...

วันที่ 9 มิถุนายนนี้ เป็นวันสถาปนา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ครบรอบ 25 ปี ที่ช่วงนี้กกต.มีประชุมกันทุกวันและทั้งวัน เพื่อเร่งประกาศรับรองส.ส.ตามหลักการขององค์กรที่ว่า “สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย” ...*...

โดยวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย.นี้  กกต.ได้สั่งให้นับคะแนนใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากผลคะแนนไม่ตรงจำนวนบัตรเลือกตั้งและผู้มาใช้สิทธิ เกิดจากการขีดคะแนนไม่ตรงกับที่มีการขานคะแนน ไม่ได้เกิดจาก “บัตรเขย่ง” ...*... 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการนับคะแนนใหม่จะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากจากผลการเลือกตั้งมากนัก แม้บางพรรคจะหวังว่าจะได้คะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น ประสา ศรพระราม หาข่าววงใน คาดว่าสัปดาห์หน้า กกต.จะประกาศรับรองส.ส.บางส่วน ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนได้ ...*...

ส่วนสีหน้าสีตาของ “ทิม” พิธา ลิ่มเจริญรัตน์ สะท้อนถึงความเคร่งเครียด ผิดจากหลังการเลือกตั้ง จะด้วยปมหุ้นไอทีวี และปมใหม่เรื่องการค้ำประกันเงินกู้ที่ไม่ได้แจ้ง ป.ป.ช . เรียกว่าปัญหาเรียงหน้าเข้ามาไม่หยุด แม้เพิ่งตัดสินใจเทหุ้น ด้วยการโอนให้ทายาทคนอื่นไปเมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ไม่แน่ใจว่า จะมีผลในทางเทคนิค กลับไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ เหมือนไม่เคยได้ถือหุ้นมาก่อน หรือจะกลายเป็นตอกย้ำการกระทำความผิดที่ดิ้นไม่หลุด ...*...

“พิธา” บอกว่า ไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลการฟื้นคืนชีพไอทีวี จะเป็นเรื่องทางธุรกิจหรือเรื่องทางการเมือง ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะความน่าจะเป็นมีอยู่ในอนาคต จึงเป็นเหตุผลต้องมีการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ...*...

แต่ท่าทีของ “พิธา” ดูเหมือนพยายามรุกกลับฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นการรับลูกนักข่าว ตามน้ำไปว่าจะ “เช็กบิล” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และล่าสุด ยังขยี้ด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่โทรศัพท์มาแสดงความยินดี ...*...

กลับมาที่เรื่องหุ้นไอทีวี อ่านจากท่าทีของ ส.ว.ก็ทำทางไว้ให้ “กกต.” ไว้พอสมควร โดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิ สภา มีมติจะส่งหนังสือ  ที่มี ส.ว.ตังตึงอย่าง เสรี สุวรรณภานนท์ เร่งกกต.ให้พิจารณาคุณสมบัติของ “พิธา” ถ้าเห็นว่าสิ่งที่ได้ร้องเรียนกันนั้นเป็นเรื่องสำคัญและมีมูล กกต.ควรเร่งรัดในการเสนอเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชี้ขาด...*...

“อย่างน้อยที่สุดการที่ศาลได้ตัดสินวินิจฉัยชี้ขาด ก็จะเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศและของคนหมู่มาก หากรอไปจนถึงขั้นตอนของวุฒิสภาลงมติโหวตนายกฯ เกิดวุฒิสภาไม่เห็นชอบหรือไม่เห็นด้วย ไม่ว่าประการใดก็จะเกิดคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเรื่องเหล่านี้  ก็จะเกิดความไม่สงบเรียบร้อย เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง” ...*...

ศรพระราม ก็ภาวนา อย่าให้มีเหตุการณ์ความวุ่นวาย ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังไปได้สวย จากการท่องเที่ยว แม้ผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายความมั่นคง จะไม่กลัว “ม็อบเด็ก” ด้วยเห็นว่าธรรมชาตินั้นไม่มีความอดทน แต่ต้องเข้าใจว่าบริบทการเมืองวันนี้ ที่โลกโซเชียลหลอมรวมกับโลกจริงแน่นสนิท ม็อบเด็กก็อาจมีวิวัฒนาการไปตามสถานการณ์ ดังที่เราได้เห็นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ลุกชี้นำพ่อแม่ให้เลือกพรรคการเมือง เป็นหัวคะแนนธรรมชาติ ฉะนั้น เรื่องม็อบ จะประมาทไม่ได้ ...*...

ที่มา:ศรพระราม (09/06/66)