วันที่ 8 มิ.ย. 66 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงค์วุฒิ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำเอกสารหลักฐานกรณีส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยมอบให้พรรคก้าวไกล ส่งต่อให้จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับบัญชาการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง
โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับการประสานงานที่ดี ทั้งจากจเรตำรวจแห่งชาติ และตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลางที่เข้าร่วมรับฟังด้วย ซึ่งตนได้นำข้อมูลเบาะแสเบื้องต้นที่รวบรวมจาก 2 ส่วน คือจากพลเมืองดี และจากสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลปลายทาง ส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการขยายผลข้อมูลและการสอบสวนเชิงลึก วันนี้จึงเหมือนเป็นการทวนสอบข้อมูลว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อให้ตำรวจดำเนินการด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ความคาดหวังจากการยื่นข้อมูลครั้งนี้ เบื้องต้นคือหวังว่าการรังควาน กลั่นแกล้ง รังแก สร้างความเดือดร้อน เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการที่สุจริตต้องเบาบางลง หรือหมดไป และนอกจากส่วยสติ๊กเกอร์ เรายังหวังว่าการเรียกรับผลประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะทุเลาลง และหมดไปเช่นกัน อาทิ การพิจารณาดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนการบรรทุกเกินน้ำหนัก
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่จะหารือกับจเรตำรวจแห่งชาติ คือการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวนบางคนปัจจุบันพิกัดน้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 50.5 ตัน แต่บางครั้งเมื่อเข้าด่านชั่งน้ำหนัก รถบางคันเกินมา 100-200 กิโลกรัม ซึ่งโดยพฤติการณ์ย่อมรู้ได้ว่าไม่ได้มีเจตนาบรรทุกน้ำหนักเกิน เพราะถ้ามีเจตนา มักจะเกินไปหลายสิบตัน แต่ด้วยกฎหมายที่มีโทษถึงริบรถ ทำให้พนักงานสอบสวนบางคน ระบุเรื่องน้ำหนักเกินลงในสำนวน และเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ ว่าถ้าจะไม่ใส่ข้อความนี้ ต้องจ่ายผลประโยชน์ โดยบางกรณีที่ไปถึงชั้นศาล พบว่ามีการพัวพันไปถึงอัยการบางคนด้วย
อย่างไรก็ดี ต้องย้ำว่า เรื่องนี้ไม่สามารถเหมารวมเจ้าหน้าที่ หรือผู้ประกอบการทุกคนได้ ผู้ประกอบการบางคนทำเพราะจำยอม ดังนั้น วันนี้เรากำลังต้องการทำให้ทุกอย่างมีความโปร่งใสร่วมกัน
ด้าน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มอบหมายให้จเรตำรวจดูแลเรื่องนี้ ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็มีคณะทำงานดูแล เพื่อดูว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องพาดพิงใครบ้าง ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดี และเร็วที่สุด ใครที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจทางหลวง หรือตำรวจส่วนอื่นต้องรับผิดชอบ โดยหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งมาได้ เบื้องต้นวางกรอบในการทำงานไว้ไม่เกิน 15 วัน