เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีได้รับร้องเรียนจากข้าราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงการใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสมของกรมการข้าว ในการจัดงาน รณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2566 ว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. มีการตั้งงบประมาณไว้ 15 ล้านบาทซึ่งมีวัตถุประสงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างความตระหนักรู้ให้เกษตรกร และได้จัดงานที่ จ.ปทุมธานี แต่เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เกิดเหตุการณ์ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน มาจัดงานที่กรมการข้าวแทน และต้องลดงบประมาณลงมาเหลือเพียง 3 ล้านบาท รวมถึงการจัดงานในศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดอื่นๆ และค่าประชาสัมพันธ์ รวมแล้วเป็นงบประมาณ 7.5 ล้านบาท

จากนั้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. กรมการข้าวได้ประชุมกันเพื่อเพิ่มวันจัดงานในวันที่ 7 พ.ค. เพิ่มงบประมาณขึ้นมาเป็น 5 ล้านบาท ซึ่งมองได้ว่าเป็นการเพิ่มงบที่ผิดสังเกต ทำให้ข้าราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคำถามต่อหัวหน้าหน่วย พร้อมร้องเรียนมายังมาพรรคก้าวไกลเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ

ทั้งนี้ ยังมีข้อสงสัยในเรื่องของความโปร่งใส เนื่องจากเป็นงานประจำปี แต่กลับดำเนินการอย่างกระชั้นชิดมาก ทำให้มีเวลาออกแบบและจัดทำงานน้อย อีกทั้ง มีผู้เสนอราคามาประมูลเพียงแห่งเดียว จากที่เทียบเชิญไป 4 แห่ง และบริษัทที่ชนะการประมูล ก็เป็นบริษัทเดิม ที่เคยร่วมงานกับกรมการข้าวมาอย่างยาวนาน และงบประมาณในการประชาสัมพันธ์ก็ขาดประสิทธิภาพ

นายกรุณพล กล่าวต่อว่า หลังจากพรรคก้าวไกลลงพื้นที่ ก็พบปัญหา เนื่องจากตาม TOR ที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้เข้าชมราว30,000 คน แต่บรรยากาศกลับเงียบเหงา มีผู้มาร่วมงานจำนวนน้อย และพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอว่า มีการจ้างเกษตรกรมาร่วมงานเพื่อให้ถ่ายภาพออกมามีคนเข้าชมตามวัตถุประสงค์ พร้อมตั้งคำถาม ว่าเหตุใดใช้รถของหน่วยงานราชการมาขนของจัดงาน ทั้งที่มีงบประมาณถึง 5,000 บาท ในการจ้างออร์แกไนเซอร์

นายกรุณพล เน้นย้ำด้วยว่า ในรัฐบาลหน้าของพรรคก้าวไกล จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ต้องเลิกงบประมาณที่ไม่เหมาะสม แต่ต้องใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน นี่ไม่ใช่การทำหน้าที่แทนพรรคฝ่านค้าน แต่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ในอนาคต เพื่อสื่อสารถึงข้าราชการที่ต้องทำงานร่วมกันในอนาคต และเชื่อว่า ยังมีข้าราชการน้ำดี ที่ต้องการเห็นการทำงานรับใช้ประชาชนอย่างโปร่งใส

นายกรุณพล ยังได้เปิดเผยอีกว่า มีข้าราชการส่งเรื่องร้องเรียนมากว่า 100 เรื่อง อาทิ กระทรวงที่มีงบประมาณสูง เช่นกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกชาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนจะมาช่วยเป็นพลังในการแก้ปัญหา มีการแจกจ่ายงานให้ ส.ส. ทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับข้อร้องเรียนและตรวจสอบ

“พรรคก้าวไกลยืนยันจะสร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ หากรัฐมนตรีท่านใดของพรรคก้าวไกลมีข้อสงสัยเรื่องการทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน คณะกรรมการวินัยของพรรคจะตรวจสอบ และหากพบว่ามีความผิดชัดเจน แน่นอนว่าทางพรรคก้าวไกลจะไม่สามารถร่วมงานด้วยได้ แต่หากเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ก็จะต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละพรรค” นายกรุณพล กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีคำสั่งให้นับคะแนนใหม่ 47 หน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามานั้น นายกรุณพล กล่าวว่า เป็นสิทธิของ กกต. ที่จะดำเนินการนับใหม่ เพราะการร้องเรียนเนื่องจากมีข้อสงสัยว่า อาจมีบัตรเขย่งหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า กกต. ต้องมีคำตอบให้ชัดเจน และหากต้องจัดเลือกตั้งใหม่ พรรคก้าวไกลก็พร้อม ที่จะให้ประชาชนเข้าคูหาตัดสินอนาคตของตัวเองอีกครั้ง

นายกรุณพล ยังยืนยันด้วยว่า ไม่ได้กังวล ในเรื่องจำนวนของผลคะแนนที่อาจจะเปลี่ยนไป เรามั่นใจว่าพรรคก้าวไกลได้รับฉันทามติจากประชาชน หากมีคำตอบที่ชัดเจน ว่าคะแนนที่เปลี่ยนไป จนทำให้ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลไม่สามารถเข้าสู่สภาฯได้ ก็ต้องยอมรับการทำงานของ กกต. เพราะแต่ละพื้นที่ก็จะมีคณะทำงานของพรรค เข้าไปเป็นสักขีพยานของการนับคะแนนใหม่