สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการยูเครนอพยพประชาชน 17,000 คน ออกจากพื้นที่น้ำท่วมสูงหลังเกิดเขื่อนแตกในเมืองโนวาคาคอฟกา แคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ จนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชน ซึ่งกองทัพรัสเซียและยูเครน ต่างกล่าวโทษระหว่างกันว่า ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเขื่อนดังกล่าวจนได้รับความเสียหาย
โดยทางการยูเครน เปิดเผยว่า ประชาชนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายจากน้ำท่วมหลังเขื่อนแตกในครั้งนี้มีจำนวนมากกว่า 40,000 คน และยังระบุด้วยว่า ควรมีการอพยพประชาชนอีกกว่า 25,000 คน ที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำดนีโปรด้วย หลังปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อท่วมพื้นที่
ทางด้าน สหภาพยุโรป หรืออียู และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ได้ออกมาประณามการโจมตีเขื่อนดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นบริเวณกว้าง โดยทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ ยังเปิดเผยด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กองกำลังของฝ่ายใดเป็นผู้โจมตี