ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 19 มิ.ย.เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้  

ดัชนี FTSE SET Large Cap Index มี 2 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ (Addition) ได้แก่  บมจ. สยามแม็คโคร(MAKRO) และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)  

โดยมีหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) ได้แก่ บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF)

ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 8 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ  ได้แก่  บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM), บมจ. เบทาโกร (BTG), กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF), บมจ. ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น(ITC), บมจ. เซ็ปเป้ (SAPPE), บมจ. เอสไอเอสบี (SISB), บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) และ บมจ. ศรีสวัสดิ์แคปปิตอล 1969 (SCAP) 

โดยมีหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) ได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท(CPNREIT), บมจ. โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM), บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER), บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE), บมจ. โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA) และ บมจ. เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG)

ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 19 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ  ได้แก่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI), บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ (AURA), บมจ. การบินกรุงเทพ (BA), บมจ. บ้านปู (BANPU), บมจ. บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY), บมจ. บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI), บมจ. อีเทอเนิล เอนเนอยี(EE), บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL), บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI), บมจ. เอ็นเอฟซี (NFC), บมจ. โพลีเน็ต (POLY), กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF), บมจ. พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป(PRTR), บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SCM), บมจ. ทีมพรีซิชั่น (TEAM), บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU), บมจ. ทีทีซีแอล(TTCL), บมจ. เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส (TKC)

โดยมีหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) ได้แก่ บมจ. เอ.เจ.พลาสท์ (AJ), บมจ. เอเซีย พรีซิชั่น (APCS), บมจ. เบาด์ แอนด์บียอนด์ (BEYOND), บมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH), บมจ. โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV), กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG), บมจ. เอกชัยการแพทย์ (EKH), บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO), บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC), บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL), บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว(LPH), บมจ. ล่ำสูง (ประเทศไทย) (LST), บมจ. เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF), บมจ. ณุศาศิริ (NUSA), บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ. โรงพยาบาลรามคำแหง (RAM), บมจ. ราช กรุ๊ป (RATCH), บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP), บมจ. ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP), บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX), บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH), บมจ. ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN), บมจ. โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA), บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE)

ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับดัชนีชุด FTSE SET Index Series และหลักเกณฑ์ในการคำนวณ ได้ที่เว็บไซต์   https://www.ftserussell.com/products/indices/set และ https://www.set.or.th/th/market/index/ftse-set/profile

โดยการทบทวนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีชุด FTSE SET Index Series จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้เป็นการล่วงหน้า โดยมีกำหนดทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ครั้งต่อไปในเดือน ธ.ค.66