“ประสิทธิ์ชัย” ถามสังคม วันนี้ “พิธา” กลายเป็นสัญลักษณ์ของความถูกต้องไปแล้วหรือ เหล้าเป็นน้ำประเสริฐ แต่กัญชาเป็นซาตาน วอนทุกฝ่ายมาเริ่มต้นทางนโยบายกันใหม่เอาความจริงมาวางบนกระดาน จัดการอย่างเป็นระบบ พร้อมนัดรวมพลหน้าทำเนียบ 9 มิถุนายน จัดกิจกรรมวันกัญชาไทย     

ประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์เพซบุค โดยฉายภาพ อธิบายถึงความจำเป็นว่าทำไมต้องมาเริ่มต้นกำหนดเรื่องกัญชากันใหม่ในวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันกัญชาไทย

โดยนายประสิทธิ์ชัย ได้โพสต์ 3 ภาพ พร้อมอธิบายประกอบ ภาพที่ 1 เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายส่งเสริมสุรา โดยมี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าเป็นกฎหมายสำคัญที่พยายามผลักดัน โดยความคิดเห็นส่วนตัว สนับสนุนให้ชุมชนหรือบุคคลสามารถผลิตเบียร์และเหล้าได้ เพราะแผ่นดินนี้มีภูมิปัญญาและวัตถุดิบมหาศาล และการผูกขาดเป็นภัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่เราต้องไม่ลืมอีกด้านหนึ่งเพราะว่าตัวเลขเชิงประจักษ์มีให้ศึกษามากมาย แค่อุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับมีทุกวันและเมื่อเกิดอุบัติเหตุรอบหนึ่งความสูญเสียเกิดขึ้นมากมายทั้งครอบครัวจะเดือดร้อน แอลกอฮอล์ยังเป็นบ่อเกิดแห่งโรคอย่างหลากหลาย พ่อของตนก็ตายด้วยแอลกอฮอล์ริซึ่ม เรื่องสุราจึงไม่ใช่เรื่องโลกสวยหากเรายึดถือข้อเท็จจริงและศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน

ภาพที่ 2 เป็นภาพที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายอย่างชัดเจนว่าต้องเอากัญชากลับสู่ยาเสพติด เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจะพบว่ากัญชาเป็นยารักษาโรค มันไม่ใช่นิยายที่บอกว่ารักษาโรคได้จริง เพราะคนโบราณใช้กัญชารักษามานาน ปรากฏในตำราจีน อินดู ในไทยปรากฏอยู่ในตำราสมัยพระนารายณ์ ในอังกฤษกัญชาเป็นส่วนผสมของยาที่ใช้ในราชสำนัก ในอเมริกาก่อนที่จะผิดกฎหมายสามารถซื้อหายากัญชาได้โดยทั่วไปเพราะมีบริษัทผลิตยากัญชาขาย  สิ่งที่ตน งง มากคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล กลายเป็นสัญลักษณ์ของความถูกต้องไปแล้ว พอนายพิธาพูดเรื่องเหล้าพื้นบ้านก็ชื่นชมกันทั้งประเทศ แอลกอฮอล์กลายเป็นน้ำอันประเสริฐ พอนายพิธาบอกว่า กัญชาเป็นยาเสพติด กัญชากลายซาตานทันที ตกลงแล้วกระบวนการทางนโยบายเราจะยึดถือข้อเท็จจริงหรือยึดถือบุคคล คำถามนี้ถามไปยังคนที่สถาปนาตนเองเป็นหัวก้าวหน้าและเป็นนักประชาธิปไตย คำถามที่อยากจะย้ำก็คือว่า กระบวนการทางนโยบายเราจะยึดถืออะไร ยึดถือบุคคลว่าคือความถูกต้องหรือว่ายึดถือข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นสิ่งสำคัญ

ภาพที่ 3 เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยมีความปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะชวนทุกฝ่ายมาเริ่มต้นกระบวนการทางนโยบายกันใหม่ โดยการกำหนดจากข้อเท็จจริง เมื่อเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาวางทั้งบนกระดาน เราจะมีมุมมองที่รอบด้าน และเมื่อนั้นเราจะเลือกได้ว่าจะใช้เครื่องมือชนิดใดในการควบคุมกัญชาในส่วนข้อเสียและเอาข้อดีมาใช้ประโยชน์ในฐานะความมั่นคงทางยา 


“หากเราเอาข้อเท็จจริงมาวางเราจะพบว่าทั้งเหล้า-บุหรี่-กัญชา เราควรจะจัดการมันยังไง วางตำแหน่งแห่งที่ตรงไหนจึงจะเหมาะสม นี่คือกระบวนการทางนโยบาย กำหนดนโยบายจากข้อเท็จจริงและเราควรสร้างเรื่องนี้ให้เป็นวัฒนธรรมของประเทศ จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันแสดงความเห็นอนาคตกัญชาไทย เจอกันวันที่ 9 มิถุนายน ที่ กพร.ตรงข้ามประตูหนึ่งทำเนียบรัฐบาล” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว 

สอดคล้องกับเพจ “เขียนอนาคตกัญชาไทย” ที่เชิญชวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมวันกัญชาไทย โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ หวังว่าคงมีความกล้าหาญในการมาระดมความคิดเห็นว่า กัญชาควรกำหนดด้วยเครื่องมือใด เครื่องมือแบบกฎหมายยาเสพติดหรือกฎหมาย พ.ร.บ. ฝากเป็นพิเศษสำหรับพรรคก้าวไกล ช่วยนำผลการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง สุรา บุหรี่ และ กัญชามาแสดงในวันงานด้วย เพื่อเป็นข้อมูลตั้งต้นที่เราจะคุยกัน อันนี้เครือข่ายทำหนังสือไปยังพรรคหลายวันแล้วเพื่อขอให้แสดงข้อมูลต่อสาธารณะ

นอกจากนี้ ยังขอเชิญชวนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา-กรมแพทย์แผนไทย-กรมวิชาการเกษตร-กรมศุลกากร-กรมคุมครองเด็กและเยาวชน - ปปส. รวมถึงเครือข่ายผู้ทำกัญชาทั่วประเทศ องค์กรที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เพื่อร่วมหาข้อเท็จจริงของกัญชาอย่างรอบด้าน โดยเมื่อเราเข้าถึงข้อมูลอย่างรอบด้านเราสามารถพิจารณาต่อได้ว่า เราจะใช้เครื่องมือใดในการกำหนดอนาคตกัญชาที่สามารถนำข้อดีของกัญชามาใช้และใช้กฎหมายนั้นควบคุมข้อเสีย กัญชาต้องควบคุมเชิงระบบและกฎหมายใดที่เอื้อให้เราควบคุมกัญชาเชิงระบบ ระหว่าง 1.กฎหมายยาเสพติดซึ่งมีเป้าหมายการจำกัดเสรีภาพ 2.กฎหมาย พ.ร.บ.ที่มีส่วนร่วมของประชาชนในการออกแบบและเห็นชอบโดยตัวแทนของประชาชนคือสภาผู้แทนราษฎร 

“กฎหมายชนิดใดที่ควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบอบประชาธิปไตย เป็นประโยชน์กับประชาชนสอดคล้องกับบริบทที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มาร่วมกันทำให้กฎหมายกัญชาสง่างามตามข้อเท็จจริง ไม่หลงอยู่ท่ามกลางการเอาชนะทางการเมือง” เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยระบุ