วันที่ 6 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีการโพสต์และแชร์ภาพ “ลิซ่า แบล็คพิงค์” หรือ ลลิษา มโนบาล นักร้องดังระดับโลก สวมใส่ชุดผ้าไทย ไปทำบุญไหว้พระกับกลุ่มเพื่อน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา   กลายเป็นกระแสฟีเวอร์ในโลกโซเชียล ทำให้บรรดาแฟนคลับ และประชาชน ต่างพากันเดินทางไปเที่ยวทั้งที่วัดมหาธาตุ  วัดหน้าพระเมรุ  วัดแม่นางปลื้ม กันอย่างคึกคักเพื่อตามรอยนักร้องดัง และหลายคนก็พากันไปเลือกซื้อชุดผ้าไทยเหมือนกับที่น้องลิซ่า สวมใส่คึกคักด้วยเช่นกัน  

แต่กระแสดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีเฉพาะที่แหล่งท่องเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยาเท่านั้น ยังส่งผลให้ร้านจำหน่ายชุดผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผลิตภัณฑ์ชุมชนหลายร้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องลิซ่า  ก็ได้รับความสนใจจากทั้งข้าราชการ ประชาชน และบรรดานักศึกษา ต่างพากันแวะเวียนมาสอบถาม เลือกซื้อ และนำรูปถ่ายที่น้องลิซ่า สวมชุดผ้าไทยที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียล มาให้ทางร้านดูเพื่อสั่งตัดอย่างต่อเนื่อง เพราะร้านที่จำหน่ายจะมีเครือข่ายกลุ่มผู้ผลิตผ้าไหม ผ้าไหมที่ขึ้นชื่อจากอำเภอต่างๆ สามารถผลิตลวดลายและสีตามที่ลูกค้าสั่งได้  

 

จากนั้นทางร้านก็จะให้ช่างตัดเย็บตามออเดอร์ลูกค้า ถึงแม้จะไม่ใช่ "ผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลน" ลายเดียวกับที่ลิซ่าสวมใส่ แต่ลูกค้าก็จะสั่งเป็นสีและลวดลายที่คล้ายคลึงกันมากที่สุด เพื่อนำไปสวมใส่ทำงาน และสวมใส่ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เพื่อตามรอยนักร้องดังที่ตัวเองชื่นชอบ  

ด้านนางโบว์ บูลเดอโรล เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน คนของพระราชา ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ชุมชนของแต่ละอำเภอ รวมถึงผลงานของนักศึกษามาวางจำหน่าย ก็บอกว่า หลังจากมีกระแส “ลิซ่า แบล็กพิงค์” สวมใส่ผ้าไทยไปไหว้พระ  ก็เริ่มมี ข้าราชการ ประชาชน และนักศึกษา แวะเวียนมาสอบถาม เลือกซื้อผ้าไหม ผ้าฝ้ายที่ร้าน รวมถึงนำรูปถ่ายที่น้องลิซ่า สวมใส่ผ้าไทยมาให้ทางร้านดูเพื่อสั่งตัดชุดไทยไปสวมใส่ตามรอยน้องลิซ่า กันอย่างต่อเนื่อง บางคนบอกว่าถ้าไม่มีเหมือนที่น้องใส่ ก็ขอแค่สีหรือลวดลายคล้ายคลึงกับที่น้องลิซ่า สวมใส่ก็เอา ซึ่งที่ร้านก็มีทั้งผ้าไหม  ผ้าฝ้ายหลากหลายลวดลายให้เลือก แต่หากลูกค้าท่านใดอยากจะได้สีหรือลวดลายอื่นที่ทางร้านอาจจะไม่มีวางขายอยู่   หากลูกค้าต้องการทางร้านก็จะประสานกับกลุ่มผู้ผลิตในแต่ละอำเภอ  และประสานช่างตัดเย็บให้ตามที่ลูกค้าสั่งได้   ตอนนี้ก็เริ่มมีออเดอร์เข้ามาแล้ว ก็คาดว่ากระแสดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น จากปกติก็มี ข้าราชการ และประชาชนทั่วไปมาอุดหนุนต่อเนื่องยอดขายก็อยู่เฉลี่ยเดือน 2-3 หมื่นบาท  หลังจากมีกระแสน้องลิซ่า  ก็คาดว่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 

หากลูกค้าท่านใดสนใจผ้าไหม ผ้าฝ้าย ก็สามารถแวะมาชม เลือกซื้อหาได้  โดยร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์เวลา  08.30 -16.30 น. ทั้งสามารถเข้าไปชมและสั่งซื้อได้ที่ เพจศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ได้ ก็ขอบคุณน้องลิซ่า ที่ทำให้ผ้าไทยกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง