นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัทฯ ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุดนั้น เบื้องต้นสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินการคือให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลหรือข่าวสารทั้งหมด หากมีความคืบหน้าต่างๆ ผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้นักลงทุนรับทราบความเคลื่อนไหวอย่างเท่าเทียมกัน และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลที่มีด้วย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องมีการสังคายนาระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอีกร่วมกัน เพื่อให้มีความสอดคล้องในกระบวนการทำงานมากขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์หุ้นมอร์ จนถึงหุ้นสตาร์คนั้น ตลท.ได้มีการตรวจสอบเพื่อปรับปรุงระบบการทำงานภายในขององค์กร ซึ่งในกรณีของหุ้นสตาร์คที่เกิดขึ้น ในอนาคตอาจมีการเสนอกฎระเบียบแนวทางแก้ไข หรือกฎหมายต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งเป็นโจทย์ขององค์กรที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน ต้องออกมาช่วยกันแก้ปัญหาร่วมกันตั้งแต่ต้น เพื่อให้มีช่องโหว่น้อยลง โดยจากนี้ยังต้องติดตามต่อว่า บริษัทสตาร์คจะมีการส่งงบการเงินประจำปี 2565 และงบการเงินประจำงวดไตรมาส 1/2566 ได้ครบถ้วนตามกำหนดหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการรับรองจากผู้สอบบัญชี และนำไปสู่การพิจารณาเพื่อกลับไปทำการซื้อขายปกติ แต่หากไม่สามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวในช่วงการเปิดการซื้อขายชั่วคราวระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 30 มิถุนายนนี้ได้ จะนำไปสู่การขึ้นเครื่องหมาย SP และสั่งห้ามการซื้อขายในระยะถัดไป จนกว่าจะมีการแก้ไขให้แล้วเสร็จอีกครั้ง

"ที่ผ่านมาตลท.ได้ปรึกษาผู้ที่เกี่ยวข้องตลอด แต่บริษัทสตาร์คก็ไม่ได้ให้ความมั่นใจว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้ก่อนเปิดซื้อขายหุ้นวันที่ 1 มืถุนายน ที่ผ่านมา และในวันที่ 16 มืถุนายนนี้ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องดำเนินการเปิดการซื้อขายหุ้นดังกล่าวชั่วคราว ซึ่งภายใน 1 เดือน หากบริษัทยังไม่สามารถส่งงบการเงินได้ก็จะสั่งหยุดการซื้อขายหุ้นต่ออีกครั้ง"