วันที่ 6 มิ.ย.2566 ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่ทำกินบนที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) พื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เรียกร้องให้ทางจังหวัดช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระงับการดำเนินคดีกับเกษตรกรที่ทำกินบนที่ดินเลขที่ 146 สปก.พื้นที่ ต.แม่ยาว จำนวน 10 ราย เนื่องจากชาวบ้านเริ่มได้รับหมายเรียกจาก สภ.แม่ยาว ไปให้ปากคำในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ในคดีที่ทาง สปก.จ.เชียงราย แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าได้บุกรุกที่ดินแปลงเลขที่ 146 โดยชาบ้านได้ถือป้ายข้อความต่างๆ เช่น ทำกินเขต สปก.มา 20 ปีถูกแจ้งข้อหาบุกรุก ฯลฯ
โดยชาวบ้านที่ร้องเรียนระบุว่าปัจจุบันมีผู้ครอบครองที่ดิน สปก.เลขที่ 146 ดังกล่าวจำนวน 111 ราย 149 แปลง แต่ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ สปก.ได้แจ้งความว่ามีผู้บุกรุกจำนวน 10 ราย ทำให้ชาวบ้านที่ถูกแจ้งความไปร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.เชียงราย เมือปี 2562 จากนั้นปลายปี 2565 ก็ไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ซึ่งจะเห็นได้ว่าคำร้องของเกษตรกรมีมูลจึงทำให้ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้พิจารณา นอกจากนี้ชาวบ้านมีข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงมีการดำเนินคดีเฉพาะ 10 ราย ส่วนที่เหลืออีกกว่า 90 ราย ไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้แจ้งต่อ สปก.จ.เชียงราย ให้แจ้งทาง สภ.แม่ยาว ให้ชะลอคดีจนกว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ร้องเรียนไปจะพิจารณาเรื่องแล้วเสร็จ เพราะเกรงว่าหากไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกก็จะกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาและต่างมีฐานะยากจนจึงไม่สามารถหาหลักทรัพย์มาประกันตัวได้
ต่อมาทางนายลิขิต มีเสรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มชาวบ้านพร้อมระบุว่าจะนำเรื่องนี้ส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปทำให้กลุ่มชาวบ้านแยกย้ายกันกลับ.