วันที่ 3 มิ.ย.66 ตามที่ปรากฎเป็นข่าวว่า “ชาวบ้านกว่า 40 ราย แจ้งจับ ผู้บริหารสหกรณ์ฯ หลังออมเงินซื้อบ้านกับสหกรณ์ ตั้งแต่ปี 2560 หมดไปคนละหลายแสน แต่ทุกวันนี้ยังไม่ก่อสร้าง”
ล่าสุดจากการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 (สสพ.2) ได้จัดอบรมและแก้ไขปัญหาการจัดทำบัญชีและงบการเงินของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ในวันที่ 30 เมษายน 2566 โดยขอใช้ที่ทำการสหกรณ์เคหสถานชุมชนป่ากล้วยพัฒนา จำกัด ในการจัดอบรมดังกล่าว ปรากฎว่าได้มีชาวบ้าน จำนวน 5 คน แจ้งว่าได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด แต่ไม่ได้รับเงินคืน จึงมาขอเงินคืนโดยแจ้งว่า นางบี (นามสมมุติ) นัดให้มารับเงินค่าหุ้น เงินออม และเงินต่างๆ ที่ส่งให้กับนางบี (นามสมมุติ) เพื่อจะซื้อที่อยู่อาศัยกับสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า นางบี (นามสมมุติ) นำชื่อสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ไปแอบอ้างหลอกลวงประชาชน เนื่องจากสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2562 แต่นางบี (นามสมมุติ) ได้เก็บเงินค่าออมหุ้น ค่าที่ดิน ค่าบริหารจัดการ จากผู้เสียหายเป็นเงินคนละ 3,300 บาท ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันปี 2566 และจากการตรวจสอบชื่อผู้เสียหายที่มาร้องขอเงินคืน ไม่มีชื่อในทะเบียนสมาชิกสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด แต่อย่างใด
ต่อมาในวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ได้จัดประชุมคณะกรรมการเพื่อติดตามและรายงานผลการจัดทำบัญชีของสหกรณ์ ซึ่งได้มีการรวมตัวผู้เสียหายจากการที่นางบี (นามสมมุติ) นำชื่อสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ไปแอบอ้าง จำนวน 41 ราย ผู้เสียหายได้มีการนำหลักฐาน และเอกสารการโอนเงิน ใบเสร็จรับเงิน ที่เป็นลายมือนางบี (นามสมมุติ) โดยได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีนางบี (นามสมมุติ) ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันปี 2566 ในการโอนเงินแต่ละครั้งนางบี (นามสมมุติ) จะออกใบเสร็จรับเงินในนามของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ให้กับผู้เสียหายทุกคน และได้นำแบบบ้าน โฉนดที่ดิน ใบสำคัญรับจดทะเบียน ของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ไปแสดงให้กับผู้เสียหายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสหกรณ์มีตัวตนจริง รวมทั้งมีการตั้งกลุ่มไลน์ ในการติดต่อ ประสานเรื่องต่าง ๆ ในกลุ่มเพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความหลงเชื่อ
ทั้งนี้นางบี (นามสมมุติ) ไม่ได้เป็นคณะกรรมการ หรือ สมาชิกของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด แต่เป็นกรรมการของสหกรณ์เคหสถานชุมชนป่ากล้วยพัฒนา จำกัด และได้รับจ้างเขียนใบเสร็จรับเงิน ให้กับสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด และเมื่อกลุ่มผู้เสียหายได้มาร้องเรียน ในวันที่ 30 เมษายน 2566 นางบี (นามสมมุติ) ได้หลบหนีออกจากชุมชนไป โดยมีกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 41 ราย รวมค่าความเสียหาย ประมาณ 8,215,012 บาท ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด ได้ประชุมคณะกรรมการและมีมติแจ้งความเอาผิด นางบี (นามสมมุติ) ในการนำเอกสารของสหกรณ์ ฯ ไปแอบอ้างให้กับชาวบ้านหลงเชื่อทำให้เกิดความเสียหายกับทางสหกรณ์ ฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้รับคำแนะนำจากสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 รวมทั้งที่ประชุมได้มีมติมอบให้นางสมคิด สิงหนาท ประธานกรรมการสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงพร้อมใจพัฒนา จำกัด และอดีตคณะกรรมการ เข้าดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับนางสาวบี (นามสมมุติ) ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่ สน.ดอนเมืองเรียบร้อยแล้ว
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าหากสมาชิกสหกรณ์ เกิดข้อสงสัยว่ามีการแอบอ้างชื่อสหกรณ์ ในการเรียกเก็บเงินในกรณีต่างๆ สามารถติดต่อสอบถาม และตรวจสอบได้ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ หรือสำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ