ตำรวจ ทหาร ปกครองบุรีรัมย์ ล่าระทึกข้ามจังหวัด ทีมขนลำเลียงยาบ้า ที่ขุดฝังดินซุกโคนต้นไม้ตามซอย ที่ จนท.ตามแกะรอยมานานกว่า 3 ปี ไหวตัวทันขับรถยนต์หลบหนี หลังกลับจากนำยาบ้าไปฝังดินในพื้นที่ ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จนท.ขับรถตามล่าอย่างกระชั้นชิด ก่อนรถยนต์เก๋งผู้ต้องหาเสียหลัก ชนท่อข้างทางพังยับในพื้นที่ ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ตรวจสอบในรถพบยาบ้า 16,000 เม็ด เสียมที่ใช้ขุดดินฝังยาบ้า พร้อมตามยึดยาบ้าที่ฝังดินไว้ รวมของกลางยาบ้าทั้งหมด 200,000 เม็ด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 มิ.ย.66 ที่หอประชุมชัยจินดา ภ.จว.บุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.ท.รัตนาธิเบศ แผ้วไพบูลย์ ผบ.ร้อย ตชด.216 , พ.ต.ไพบูลย์ ไชยนิคม รอง เสธ.ฉก.ทพ.26 แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ตามแผนยุทธการ ‘พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้’ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 เครือข่าย จำนวน 4 คดี รวม5 คน ของกลางยาบ้าทั้งหมด 200,159 เม็ด และยาเค หรือเคตามีน น้ำหนักประมาณ 0.7 กรัม
ซึ่งเป็นผลงานการบูรณาการกำลังร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ ชปส.ร้อย ตชด.215 ,ตำรวจ ชปส.ร้อย ตชด.216 ,ตำรวจ ชปส.กก.ตชด.21 , เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.กรมน. , หน่วยปราบปรามยาเสพติด ขกท.ศปก.ทบ.(นฝด.22, ขกท.กกล.สุรนารี) , เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 26 , เจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. , เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และ ตำรวจ สภ.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
โดยเครือข่ายแรก จับกุมเมื่อวันที่ 30 พ.ค.66 จำนวน 3 คดี ได้ผู้ต้องหา 3 คน ของกลางยาบ้า 151 เม็ด และเคตามีน น้ำหนักประมาณ 0.7 กรัม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย เครือข่ายที่ 2 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้จำนวน 2 คน คือ นาย กฤษฎา หรือหนุ่ม อายุ 38 ปี กับ นาย ชิดษณุ หรือเกียร์ อายุ 35 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางยาบ้า 200,008 เม็ด อุปกรณ์การเสพ ถุงพลาสติกสีดำ เสียมอีก 1 ด้าม และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กล 6686 ชลบุรี อีก 1 คัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนสอบสวนติดตามมาอย่างต่อเนื่อง รวมระยะเวลานานกว่า 3 ปี หลังชุดจับกุมเคยทำการจับกุม และตรวจยึดยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ตามถนนของหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่ ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ระหว่างถนนสาย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ - อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โดยจะใช้วิธีการฝังยาเสพติดไว้ตามโคนต้นไม้ข้างทางไว้ก่อนล่วงหน้า แล้วจะโทรศัพท์ติดต่อลูกค้าให้ไปเก็บเอายาเสพติดในภายหลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้านแล้ว
กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค.66 ได้สืบสวนทราบว่า จะมีทีมขนลำเลียงนำเอายาเสพติด ซึ่งเป็นกลุ่มทีมขนลำเลียงยาเสพติด ที่เคยนำยาเสพติดเข้ามาวางให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ หลายครั้ง จึงได้วางแผนจับกุม และเฝ้าสังเกตตามจุดและเส้นทางต่างๆที่พบว่าเคยมีการนำยาเสพติดมาฝังไว้ ต่อมาพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง สภาพเก่า ทะเบียน กล 6686 ชลบุรี จอดตามจุดต่างๆภายในซอยทางเข้าหมู่บ้านนครลำปาง ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะขับออกมาแล้วขับมุ่งหน้าไปทาง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ชุดจับกุมส่วนหนึ่งจึงได้ขับติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และอีกส่วนหนึ่งได้เข้าไปตรวจสอบตามจุดต่างๆและบริเวณใกล้เคียงที่รถยนต์เก๋ง วีออส คันดังกล่าวจอดอยู่ ซึ่งพบรอยล้อรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวขับออกจากซอยข้างทาง
จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง ก็พบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ ฝังไว้โคนต้นประดู่ จำนวน 2 จุด จำนวน 1 มัด หรือจำนวนประมาณ 2,000 เม็ด และ 2 มัด หรือจำนวนประมาณ 4,000 เม็ด ภายในซอยริมถนนทางเข้าหมู่บ้านนครลำปาง ต.ชุมแสง อ.สตึก พ.ต.ท.วิชาญ จึงได้แจ้งให้ชุดจับกุมที่เหลือ ขับติดตามรถยนต์เก๋งวีออสคันดังกล่าว เพื่อจะทำการสกัดจับ แต่รถยนต์เก๋งวีออสคันดังกล่าวรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดตาม จึงได้ขับรถหนีดัวยความเร็วมุ่งหน้าไปทางบ้านหลวงอุดม ม.18 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ จนถึงสี่แยกกลางหมู่บ้านรถยนต์เก๋งวีออส ได้เสียหลักพุ่งชนกับท่อซีเมนต์ที่วางไว้บริเวณข้างถนนเข้าอย่างจัง จนทำให้ด้านหน้ารถพังเสียหายไปต่อไม่ได้
ตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋ง วีออส พบคนขับชื่อ นายกฤษฎา หรือหนุ่ม อายุ 38 ปี และพบนายชิดษณุ หรือเกียร์ อายุ 35 ปี นั่งอยู่ข้างคนขับ ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นชาว อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และยังพบยาบ้าจำนวน 8 มัด หรือจำนวนประมาณ 16,000 เม็ด วางอยู่บริเวณที่พักเท้าที่นั่งข้างคนขับ และพบยาบ้าอีกจำนวน 8 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพวางอยู่บริเวณคอนโซนหน้ารถ ถุงพลาสติกสีดำ และเสียมอีก 1 ด้าม วางอยู่บริเวณเบาะหลัง พร้อมกับได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลรักษาเบื้องต้นให้กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนด้วย เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
สอบถามทั้ง 2 คน ให้การยอมรับสารภาพว่า ยาบ้า จำนวน 8 มัดหรือจำนวนประมาณ 16,000 เม็ด เป็นยาบ้าที่ตนจะนำไปวางต่อให้กับลูกค้า และอีก 8 เม็ด ที่พวกตนไว้ใช้เสพ กับเสียมที่ไว้ใช้สำหรับขุดดินฝังยาบ้า พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดเอายาบ้า ที่พวกตนได้ฝังยาบ้าไว้ตามตามโคนต้นไม้ต่างๆ ทั้งที่บริเวณโคนต้นไม้ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านโคกสิงห์ ม.12 ต.ชุมแสง อ.สตึก บริเวณโคนต้นไม้ทางเข้าหมู่บ้านนครลำปาง ม.17 ต.ชุมแสง อ.สตึก [ริเวณปากท่อระบายน้ำ ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านนครลำปาง ม.17 ต.ชุมแสง อ.สตึก รวมถึงบริเวณโคนต้นประดู่อีก 2 จุด ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ด้วย รวมยาบ้าฝังดินจำนวน 18 มัด หรือจำนวนประมาณ 36,000 เม็ด
พร้อมกันนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังยอมรับสารภาพด้วยว่า ยังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งที่พวกตนฝังดินเอาไว้ เพื่อเตรียมขนลำเลียงมาส่งให้ลูกค้าในรอบต่อไปด้วย โดยได้ฝังดินไว้ที่บริเวณป่าชุมชน ริมถนนด้านซ้ายมือเส้นทางบ้านเตย-บ้านหนองช่องแมว ม.3 ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี จึงพาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจยึดเอายาบ้าที่จุดดังกล่าว พบยาบ้าฝังดินไว้จำนวน 74 มัด หรือจำนวนประมาณ 148,000 เม็ด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง แล้วควบคุมผู้ต้องหาและนำของกลางทั้งหมดมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ยังที่ทำการชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมกับแจ้งการจับกุมให้กับนายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ กับพนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบตามขั้นตอนของกฎหมายและตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปรามปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป