วันที่ 2 มิ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งขาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปน.ตร. เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2565 ได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบชื่อแก๊งบังโก้มีพฤติการณ์เรียกดอกเบี้ยโหดสูงถึงร้อยละ 340 ต่อปี เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) นำโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปน.ตร.,พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร.พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร.ได้สั่งการให้บช.ก.เร่งรัดปราบปรามกลุ่มเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรากว่าที่กฎหมายกำหนด และมีการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้พล.ต.ท.จิรภพภูริเดช ผบช.ก.จึงได้มอบหมายให้ บก.ปอศ.โดย พล.ต.ต.พุฒิเดชบุญกระพือ ผบก.ปอศ. ดำเนินการสืบสวนหาเครือข่ายผู้กระทำความผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปอศ.ได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งทราบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวเป็นเครือข่ายเงินกู้รายใหญ่ โดยมี นายเกียรติศักดิ์ หรือบังโก้ เป็นหัวหน้าแก๊งหรือนายทุน และมีเครือข่ายกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ เช่น กาญจนบุรี อุดรธานี ขอนแก่น กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับกลุ่มเครือข่ายของบังโก้ทั้งหมด 14 ราย
ต่อมาเมื่อวันที่ 2มิ.ย.66 พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรมผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร./หัวหน้าชุดปฏิบัติการส่วนกลาง ศปน.ตร.พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ บก.ปอศ.สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจภ.3,ภ.4, ภ.7, ภ.8และ ภ.9จำนวนมากกว่า 100 นายบุกทลายเครือข่าย“แก๊งบังโก้”โดยเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน12จุด ในพื้นที่5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และ สงขลาผลการดำเนินการสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด24รายประกอบด้วย
1. น.ส.มลฤดี (สงวนนามสกุล)อายุ 38 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1694/2566 ลง 31พ.ค.66
2.นายวัชระ (สงวนนามสกุล)อายุ 38 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1695/2566 ลง 31พ.ค.66
3.นายวัชระ (สงวนนามสกุล)อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1696/2566 ลง 31พ.ค.66
4. นายทรงพล (สงวนนามสกุล)อายุ 29 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1697/2566 ลง 31พ.ค.66
5.นายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1698/2566ลง 31พ.ค.66
6. นายวัชรพล (สงวนนามสกุล)อายุ 26 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1701/2566 ลง 31พ.ค.66
7. นายธเนศ (สงวนนามสกุล)อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1703/2566 ลง 31พ.ค.66
8. นายคมกฤษ (สงวนนามสกุล)อายุ 28 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1704/2566 ลง 31พ.ค.66
9. นายวุฒิพงษ์ (สงวนนามสกุล)อายุ 24 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1705/2566 ลง 31พ.ค.66
10. นายธัชพล แก่นสารอายุ 38 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1706/2566 ลง 31พ.ค.66
11. นายชำนาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
12. นายอธิเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
13. นายมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี
14. นายอำนวย (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
15. นายบุญฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี
16. นายสมนึก (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี
17. นายนนที (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
18. นายวีระพงษ์ (สงวนนามสกุล)อายุ 18 ปี
19. นายพีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี
20. นายนฤดม (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี
21. นายอดิรักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี
22. นายวรเมธ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี
23. นายศุภชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี
24. นายปาณชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี
โดยผู้ต้องหาที่ 1-10กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน“ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”และผู้ต้องหา 11-24 กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต”
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถตรวจยึดของกลางได้ รวม 11 รายการ ประกอบด้วย 1.นามบัตร จำนวน 880,000ใบ,2.สัญญากู้ 122 ฉบับ,3.เอกสารผู้กู้ 642 ฉบับ4.คอมพิวเตอร์/แท็บเล็ต จำนวน 8 เครื่อง 5.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 17 เล่ม6.บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ 7.โทรศัพท์มือถือ 16 เครื่อง 8.เครื่องคิดเลข 8 เครื่อง 9.รถยนต์1 คัน 10.จักรยานยนต์ 13 คัน 11.เงินสด 15,200 บาท
จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์ในการเดินทางเข้าไปตามแหล่งชุมชนต่างๆ ตลาดนัด หรือร้านค้า และทิ้งนามบัตรในการติดต่อของกู้เงิน เพื่อชักชวนให้ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยและประชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ โดยมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 340 ต่อปี เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิด พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 2 ปี มากกว่า 600 ล้านบาท อีกทั้งกลุ่มผู้กระทำความผิดมีการโพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊กในการชักชวนผู้อื่นเข้าร่วมขบวนการอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลรอง ผบ.ตร./ผอ.ศปน.ตร.กล่าวว่า ในวันนี้ ศปน.ตร. มีหน้าที่ในการปราบปรามแก๊งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบันมีการกระทำผิดในหลายรูปแบบ ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการทลายแก๊งบังโก้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนายทุนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มดังกล่าว พร้อมของกลางหลายรายการ ซึ่งจากนี้จะสั่งการให้ตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มผู้กระทำผิดให้สิ้นซากหากพี่น้องประชาชนคนใดได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งเงินกู้ หรือมีเบาะแสที่เป็นประโยชน์ สามารถแจ้งได้ที่ช่องทาง 1599 หรือสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชนอย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้ https://www.bot.or.th/app/BotLicenseCheck- ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ.โทร 082 4818813 “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”