พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ ดส. นำกลังเข้าตรวจค้น สถานบันเทิง ภายในอาบอบนวดแห่งหนึ่ง ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พบนักเที่ยวชาวจีน จำนวน 48 คน เป็นหญิง 18 คน ชาย 30 คน เปิดห้องคาราโอเกะ 4 ปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติด เปิดให้บริการยันเช้า ว่า ทราบว่าเป็นการพยายามปกปิด แต่เจ้าหน้าที่ได้เบาะแส กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงส่งตำรวจ ดส.ไปดำเนินการ ถือว่าเป็นผลงานการปฏิบัติ ใครจะทำผิดกฎหมายอะไรก็ตาม ถ้าเราได้เบาะแสจะดำเนินการไปตามที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งอย่างตรงไปตรงมา ถ้าใครปล่อยปะละเลยเราก็จะมีการลงโทษ อย่างเช่นที่ จ.ภูเก็ต ทราบว่ามีการจับกุมสถานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เปิดถึงเช้าต้องลงโทษ 


ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มนักเที่ยวที่ถูกจับกุมมีส่วนเชื่อมโยงกับผับจินหลิงหรืออไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบขนาดนั้นยังรอรับรายงานอยู่ ถามต่อว่าแต่ที่แน่ๆ ผลการตรวจพบยาเสพติดเจ้าของผับนำมาจำหน่ายให้กับนักเที่ยวหรือนักเที่ยวนำเขาไปเอง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ขอผลตรวจสอบนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นการมั่วสุมเสพยาด้วย เป็นรูปแบบที่ต้องไปกวดขันเพิ่มเติม เชื่อว่าอนาคตอาจจะมีการลักลอบอีก เหมือนปกติสิ่งผิดกฎหมายอาจจะลักลอบจากสถานบริการไปอยู่ที่คอนโด อพาร์ทเม้น โรงแรม เจ้าหน้าที่ต้องหาข่าวการทำงาน ถ้าได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแสมาเจ้าหน้าที่ก็จะทำงานง่ายขึ้น 


เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ต้องพิจารณาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องดูว่าท้องที่ที่มีส่วนร่วมกับทาง ดส.หรือไม่ ผมยังไม่ได้คุยละเอียดกับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. อย่างไรก็ตามตนได้สั่งการให้ขยายผล และสั่งให้ท้องที่อื่นถ้ามีลักษณะนี้ให้รีบดำเนินการ ถึงแม้เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวแต่ไม่อยากให้มั่วสุม ลักษณะการมั่วสุมที่ผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นการพนัน มั่วสุมเสพยาเสพติด ส่วนการปิดสถานบริการในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น บช.น.มีอำนาจมีอำนาจในการพิจารณา