นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า ต้มกบ

ก่อนเลือกตั้ง มีข่าวต้มกบว่า ลุงจะชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ จะมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ถึง 20 ล้านคน ได้แสดงบัญชีกลุ่มมวลชนที่จะเลือกลุงไว้ชัดเจน เช่นชาวอโศก 1 ล้านคนเป็นต้น

ต้มกบสนิทก็ในวันเลือกตั้ง ถึงขั้นเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปรอแถลงชัยที่ safe house การปูพรมแดง ที่พรรคเตรียมประกาศชัย การแจ้งสื่อมวลชนไปรอทำข่าวอย่างพร้อมพรั่ง

หลังปิดหีบเลือกตั้ง 3 ชั่วโมง ผลตรงกันข้าม กลายเป็นเรื่องต้มกบต่างคนต่างไป พ่ายแพ้ยับเยิน

ต้มกบ ด้วยข่าวเรื่องดีลลับลังกาวี มาถึงวันนี้ความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นแค่อุบายทำลายพรรคร่วมรัฐบาลตามแถลงการณ์ให้แตกกัน เพื่อฉวยโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ต้มกบล่าสุดว่า ถ้านายพิธาถูกสอยตกสวรรค์ จะทำให้ผู้สมัครส.ส ก้าวไกล เป็นโมฆะ 151 คน อาจต้องเลือกตั้งทั้งประเทศ
ว้าวๆๆๆ ทำไมจึงว่าต้มกบ?

~ขณะนี้ กกต. ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง ถ้าจะทำเรื่องนี้ ต้องส่งคดีไปที่ศาลฎีกา ซึ่งมีบรรทัดฐานอยู่แล้ว ว่าถ้าถือหุ้นน้อยก็ไม่ผิด เมื่อพิธาไม่ผิด จะสอยผู้สมัคร กก.ทั้งพรรคก็ล้มไปด้วย

ดูลีลาท่าทางคงไม่กล้าส่งคดีไปศาลฎีกาแน่

ดังนั้นก็ต้องรอให้กกต.รับรองผลเลือกตั้งเสียก่อน คดีจึงจะอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องหมูๆเพราะ
-เมื่อกกต.ประกาศผลเลือกตั้ง ก็สามารถเปิดประชุม สภาได้ สามารถเลือก นายกรัฐมนตรีได้ เขาก็ตั้งรัฐบาลกันไปเรียบร้อย แผนนี้ก็จะเดี้ยง
-ถ้าจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ก็ติดตรงที่กฎหมายบัญญัติให้ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลย้อนหลัง คือวินิจฉัยเมื่อใดก็มีผลเมื่อนั้น ถ้าหากนายพิธาผิด ก็ไม่กระทบต่อการรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคให้ตกเป็นโมฆะไปด้วย
~ กกต. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจ และมีคำสั่งในการเลือกตั้ง ซึ่งต้องตรวจความถูกต้องทุกประการของผู้สมัครทุกคนว่า มีการรับรองโดยถูกต้องหรือไม่ มีคุณสมบัติโดยถูกต้องหรือไม่ เมื่อกกต.เห็นว่าถูกต้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้รับสมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครจึงมีสิทธิ์ สมัครรับเลือกตั้งได้

ถ้าอยู่ๆกกต. จะทำฆาตกรรมตัวเอง ว่าตรวจสอบผู้สมัครรับเลือกตั้งผิดพลาด ก็จะเกิดความเสียหาย อย่างใหญ่หลวงขึ้น กกต.จะยอมฆ่าตัวตาย ด้วยตนเองทั้งคณะ หรือว่าจะยืนยันว่าที่ตรวจสอบมานั้นถูกต้อง?
-ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และเป็นกระบวนการของการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อยู่ในสภาพที่ ประชาชนทั่วประเทศ ที่เขาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเขาก็ไม่ยอม ให้ปล้นสะดมภ์ อำนาจอธิปไตยในการเลือกตั้งอย่างแน่นอนแล้ว

ระยะนี้เอากันแค่ว่า กกต.จะรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งเมื่อใด ก็หาข้อยุติกันให้ได้ก่อน เพราะเป็นจุดกำหนดว่า จะส่งคดีนี้ ไปร้องที่ศาลฎีกา หรือจะไปศาลรัฐธรรมนูญ
~การลุกฮือขึ้นของประชาชน เพื่อต่อต้านการ รัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อาจกลายเป็นการปฏิวัติ ประชาชาติ และนักล่าอาณานิคมต่างชาติ ก็อาจฉวยโอกาสขยายผลเป็นการปฏิวัติสี และถ้ามีความรุนแรงมากขึ้น การรัฐประหารก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้

นี่คือสิ่งที่เคยเตือนไว้แล้วว่า สถานการณ์กำลังเข้าสู่ สถานการณ์ปฏิวัติ 3 ชนิด พร้อมๆกัน ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง และความมั่นคงของชาติ
#รัฐบาล66